XClose
Home
|
Login
|
Register
|
สมัครใช้ Server
|
Search
Counter [
01256762
Online
0
]
1.ຮຽນຮູ້ Forex Basic Course
ບົດທີ່ 1 Forex ຂັ້ນພື້ນຖານ
ບົດທີ 2. ປັດໃຈພື້ນຖານໃນການເທຣດ Forex
ບົດທີ 3. ຄໍານິຍາມໃນຄໍາສັບໄດ້ MT4
ບົດທີ 4 ສອນໃຊ້ງານເມນູ MT4.
ບົດທີ 5. ການເພີ່ມຂຶ້ນ ຕົວຊີ້ວັດ ແລະ EA ໃນ MT4.
ບົດທີ 6 ການເປີດ-ປິດຄຳສັ່ງຊື່-ຂາຍ
2.ຮຽນຮູ້ Forex Advance Course
ບົດທີ 1 ຄ້າດ້ານວິຊາການວິເຄາະໂດຍພື້ນຖານ:. (ຂ່າວການຄ້າ).
ບົດທີ 2 ການວິເຄາະປັດໄຈດ້ານວິຊາການ:. ທຽນ.
ບົດທີ 3.Fibonacci Retracement
ບົດທີ 4 ສະຫນັບສະຫນູນ - ການຕໍ່ຕ້ານ.
ບົດທີ 5. ສະເລ່ຍ ( ການເຄື່ອນຍ້າຍໂດຍສະເລ່ຍ).
ບົດທີ 6.Bollinger Bands
ບົດທີ 7.Moving Average Convergence Divergence (MACD)
ບົດທີ 8.Parabolic SAR
ບົດທີ 9.Stochastics
ບົດທີ 10.Relative Strength Index (RSI)
3.ຮຽນຮູ້ Forex Professional Course
ບົດທີ 1. ເສັ້ນສະແດງໃນຕາຕະລາງ ຮູບແບບ .
ບົດທີ 2 ຮູບແບບ. ລາຄາ ເປັນ ຄວາມກົມກຽວກັນ.
ບົດທີ 3.Pivot Point
ບົດທີ 4.Divergence
ບົດທີ 5.Trend ແລະ Sideway.
ບົດທີ Trading 6.Breakout
ບົດທີ 7: A ສໍາລັບການຄ້າໂດຍພາທີ່ໃຊ້ເວລາ ການ.
ບົດທີ 8.Developing ການຊື້ຂາຍຂອງທ່ານ ເຈົ້າເອງ.
ບົດທີ 9.Create ລະບົບການຊື້ຂາຍ ຂອງທ່ານ.
ບົດທີ 10. ການຈັດການຄວາມສ່ຽງ.
ບົດທີ 11.Stop ການສູນເສຍ ການຕັ້ງຄ່າ.
ບົດທີ 12. ການຄ້າດ້ານວິຊາການຂອງ Admin .
ລວມ Indicators
Browse A
Browse B
Browse C
ຄອມ | ຊຸມ D
Browse E
ກຸ່ມ F
ກຸ່ມ G
ກຸ່ມ H
Browse K
Browse L
ກຸ່ມຜູ້ຊາຍ
O ກຸ່ມ
ກຸ່ມ P
Browse R
ກຸ່ມ S
Browse T
Browse U
ກຸ່ມ V
W Group
Browse Z
ໂປູໂມຊັນ Promotion
ແຈກ E-voucher $ 30.
FBS ເງິນ $ 123 ຟຣີ.
ລວມເທັກນີກການເທຣດ
Indicators ເຄື່ອງມື ຊີ້ແນະ
ຮູບແບບລາຄາບອກຄວນຊື້ຫຼືຂາຍ
ການເບິ່ງກາຟແທ່ງທຽນ
ແທ່ງທຽນທີ່ມີລັກສະນະຕົງກັນຂ້າມ26ຄູ່ທີ່ຄວນຈົດຈຳ
ສ້າງກຳໄລຈາກຮູບແບບກຣາຟທັງ7
ເທຣດງ່າຍໆ ດ້ວຍການໃຊ້ Bollinger Bands
lchimoku ປະໂຫຍດແລະການໃຊ້ງານສະບັບຫຍໍ
Moving Average ປະໂຫຍດແລະການໃຊ້ງານ
Relative Strength Index (RSI) ປະໂຫຍກ ແລະ ການນ້ຳໄປໃຊ້ການ
Stochastic Oscillator (STO) ປະໂຫຍດແລະການໃຊ້ງານ
Average Directional Movement Index(ADX)ປະໂຫຍດແລະການນຳໄປໃຊ້ງານ
(MACD)ປະໂຫຍດແລະການນຳໃຊ້ງານ
ຫາຈຸດປຽນດ້ວຍ Parabolic SAR
Time frame ຄວນເລືອກເວລາໃດດີ
Take Profit ແລະ Stop Loss
ການຕັ້ງຄ່າແລະໃຊ້ງານ fibonacci
Comunity
>
World Market
>
สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงิน >
World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำเดือน มกราคม 2018
Pages [ 1 ]
Owner
Topic : World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำเดือน มกราคม 2018 ( View : 1464 times )
admin
Administrator
Post : 32
World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำเดือน มกราคม 2018
on
: Wed January 3,2018, 12:38
World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำเดือน มกราคม 2018
Attach File : 25660052_2118792451682910_3034870125817012658_n.jpg
admin
Administrator
Post : 32
Re : World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำเดือน มกราคม 2018
on
: Tue January 30,2018, 10:45
World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 30 มกราคม 2561
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีกำหนดแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อสภาคองเกรสในวันนี้ (30 ม.ค.) เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ (31 ม.ค.) เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทรัมป์ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ว่า ในการแถลงนโยบายประจำปีครั้งนี้ เขาจะกล่าวถึงประเด็นต่างๆ ซึ่งรวมถึงนโยบายการรับคนเข้าเมืองและนโยบายการค้า นอกจากนี้ ทรัมป์กล่าวว่า เขาจะพูดถึงความสำเร็จครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในยุคสมัยของเขา ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งของตลาดหุ้น และการผ่านร่างกฎหมายปฏิรูปภาษี
--นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาการประชุมระยะเวลา 2 วันของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ และจะเสร็จสิ้นในวันพรุ่งนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
ทั้งนี้ นักลงทุนรอดูถ้อยแถลงครั้งสุดท้ายของนางเจเน็ต เยลเลน ในฐานะประธานเฟด ก่อนที่นางเยลเลนจะสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดในวันที่ 3 ก.พ.นี้ และนายเจอโรม พาวเวล จะก้าวขึ้นมารับตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่
--ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (29 ม.ค.) โดยได้แรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่สูงขึ้น ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,439.48 จุด ร่วงลง 177.23 จุด หรือ -0.67% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,853.53 จุด ลดลง 19.34 จุด หรือ -0.67% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,466.51 จุด ลดลง 39.27 จุด หรือ -0.52%
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นสู่ระดับ 2.716% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2557 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลประเภทอายุ 30 ปี ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 2.954%
ตลาดการเงินได้เพิ่มการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ โดย CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 26% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 23% ในวันศุกร์ และ 10% ในเดือนที่แล้ว
-- กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า อัตราว่างงานของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.8% ในเดือนธ.ค. จากระดับ 2.7% ในเดือนพ.ย.
ด้านกระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการเปิดเผยว่า ตำแหน่งงานว่างปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 1.56 เป็น 1.59 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2517 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวหมายความว่า มีตำแหน่งงานว่าง 159 อัตรา สำหรับผู้หางานทุกๆ 100 คน
สำหรับตลอดทั้งปี 2560 อัตราว่างงานลดลงสู่ระดับ 2.8% จาก 3.1% ในปีก่อนหน้า
--สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนธ.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากพุ่งขึ้น 0.8% ในเดือนพ.ย. ขณะที่ตัวเลขการออมของผู้บริโภคสหรัฐลดลงสู่ระดับ 3.516 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2550 จากระดับ 3.651 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย.
ส่วนดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย.
--สำนักข่าวนิกเกอิของญี่ปุ่นรายงานว่า บริษัทแอปเปิล อิงค์ได้แจ้งซัพพลายเออร์ว่า ทางบริษัทจะปรับลดเป้าการผลิต iPhone X สำหรับไตรมาสแรกในปีนี้ลงครึ่งหนึ่ง เหลือเพียง 20 ล้านเครื่อง เนื่องจากยอดขายที่ต่ำกว่าคาดในยุโรป สหรัฐ และจีน
อย่างไรก็ดี คาดว่าแอปเปิลจะยังคงเป้าการผลิต iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone 7 ที่ระดับ 30 ล้านเครื่อง
--กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า อัตราว่างงานของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.8% ในเดือนธ.ค. จากระดับ 2.7% ในเดือนพ.ย.
ด้านกระทรวงสาธารณสุข แรงงานและสวัสดิการเปิดเผยว่า ตำแหน่งงานว่างปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 1.56 เป็น 1.59 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2517 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวหมายความว่า มีตำแหน่งงานว่าง 159 อัตรา สำหรับผู้หางานทุกๆ 100 คน
--สำนักงานตำรวจนครบาลประจำกรุงโตเกียวได้เริ่มทำการสอบสวนเบื้องต้นเมื่อวานนี้ กรณีที่บริษัท Coincheck ผู้ให้บริการซื้อขายสกุลเงิน NEM ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัล เปิดเผยว่า แฮกเกอร์ได้โจรกรรม NEM ไปจากระบบเป็นจำนวนเงินสูงถึง 5.8 หมื่นล้านเยน
-- นายมาร์ค คาร์นีย์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีกำหนดเข้าแถลงต่อคณะกรรมาธิการกิจการด้านเศรษฐกิจของรัฐสภาอังกฤษในกรุงลอนดอนวันนี้
--จับตาข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่จะรายงานในวันนี้ โดยฝรั่งเศสจะรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2560, อียูจะเปิดเผยจีดีพีไตรมาส 4/2560 ตลอดจนความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ความเชื่อมั่นผู้บริโภค และความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนม.ค., เยอรมนีจะรายงานอัตราเงินเฟ้อเบื้องต้นเดือนม.ค. และสหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ส และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.จาก Conference Board
สำหรับในวันพรุ่งนี้ก็มีข้อมูลที่น่าจับตาเช่นกัน ทางฝั่งจีนจะรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการ และดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนม.ค.จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS), ญี่ปุ่นจะรายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค., อียูเตรียมเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนธ.ค. และสหรัฐจะรายงานตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค.จาก ADP สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนธ.ค. เป็นต้น
-- นักลงทุนยังจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงผลประกอบการของไมโครซอฟต์ เฟซบุ๊ก เพย์พาล อาลีบาบา แอปเปิล อัลฟาเบท อเมซอน ไฟเซอร์ โบอิ้ง และยูพีเอส
Attach File : Head-and-Shoulders-7.jpg
admin
Administrator
Post : 32
Re : World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำเดือน มกราคม 2018
on
: Mon January 29,2018, 09:30
World Today: สรุปประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 29 มกราคม 2561
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ (26 ม.ค.) โดยดัชนีดาวโจนส์ S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดทำนิวไฮอีกครั้ง หลังสหรัฐเผยตัวเลข GDP ต่ำกว่าคาดการณ์เล็กน้อย ซึ่งนักลงทุนมองว่ายังแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 223.92 จุด หรือ 0.85% ปิดที่ 26,616.71 จุด ดัชนี S&P 500 บวก 33.62 จุด หรือ 1.18% ปิดที่ 2,872.87 จุด ดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้น 94.61 จุด หรือ 1.28% ปิดที่ 7,505.77 จุด
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2560 ที่ระดับ 2.6% โดยต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3% และต่ำกว่าระดับ 3.2% ในไตรมาส 3
การชะลอตัวของเศรษฐกิจในไตรมาส 4/2560 มีสาเหตุจากการลดลงของการลงทุนในสินค้าคงคลัง และการพุ่งขึ้นของตัวเลขการนำเข้าสินค้า
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 3% ในปีนี้ ตามเป้าหมายของรัฐบาล จากปัจจัยบวกของดอลลาร์ที่อ่อนค่า และเศรษฐกิจโลกที่แข็งแกร่ง รวมทั้งแรงกระตุ้นจากมาตรการปฏิรูปภาษีของรัฐบาล
ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 1.4% ในไตรมาส 1 ของปีที่แล้ว, 3.1% ในไตรมาส 2 และ 3.2% ในไตรมาส 3
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์เมื่อวันศุกร์ โดยได้กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งได้ช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างมาก หลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในปีที่แล้ว
ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า มาตรการปฏิรูปภาษีของเขาได้ทำให้บริษัทสหรัฐกลับมาลงทุนในประเทศ และเขายังได้กล่าวเชิญชวนประเทศต่างๆ เข้าลงทุนในสหรัฐ นอกจากนี้ ปธน.ทรัมป์ยังได้กล่าวปกป้องนโยบาย"อเมริกาต้องมาก่อน" โดยกล่าวว่า คำว่า'อเมริกาต้องมาก่อน' ไม่ได้หมายความว่า สหรัฐคำนึงถึงผลประโยชน์อเมริกาเท่านั้น เพราะว่าเมื่อเศรษฐกิจของสหรัฐขยายตัว เศรษฐกิจโลกก็ขยายตัวเช่นกัน
-- นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ว่า แม้มีหลายปัจจัยที่ทำให้การบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% เป็นไปอย่างยากลำบาก แต่เขาเชื่อว่า BOJ ใกล้จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว เนื่องจากค่าแรงและราคาผู้บริโภคของญี่ปุ่นเริ่มปรับตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ นายคุโรดะไม่ได้ปรับทบทวนแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่น พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่า ท้ายที่สุดแล้ว BOJ จะสามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ และยังกล่าวด้วยว่า BOJ จะเดินหน้าสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและราคา ด้วยการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไป
-- สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างข้อมูลจากหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เล็งเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมเป็น 7.16 แสนล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2562
ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้น 7% จากงบกลาโหมปี 2561 ซึ่งยังไม่ผ่านสภาคองเกรส นอกจากนี้ ตัวเลขดังกล่าวจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายประจำปีของกระทรวงกลาโหม รวมถึงค่าใช้จ่ายในการทำสงครามและรักษาคลังแสงอาวุธนิวเคลียร์
-- Coincheck บริษัทผู้ดำเนินการซื้อขาย NEM ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัล แถลงว่า NEM จำนวน 5.8 หมื่นล้านเยน (534 ล้านดอลลาร์) ได้สูญหายไปจากตลาดซื้อขายเงินดิจิทัลแห่งหนึ่งในญี่ปุ่นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากถูกแฮกเกอร์ลักลอบเจาะเข้าระบบ
การสูญหายเงินดังกล่าว ทำให้ Coincheck ประกาศระงับการซื้อขาย และฝากถอนเงิน NEM
สำหรับวงเงิน NEM ที่สูญหายในครั้งนี้ มากกว่าที่ Mt. Gox ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายบิตคอยน์ในญี่ปุ่น แจ้งว่ามีการสูญหายบิตคอยน์วงเงิน 4.8 หมื่นล้านเยนในปี 2557
Coincheck ออกแถลงการณ์ขอโทษลูกค้าต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะทำการตรวจสอบหาสาเหตุการสูญหายของ NEM ขณะที่ได้รายงานต่อสำนักงานบริการการเงิน และสำนักงานตำรวจของญี่ปุน
-- สหรัฐประกาศคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่ เพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียประกาศผนวกคาบสมุทรไครเมียจากยูเครนในปี 2557 และเข้าสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครน โดยกระทรวงการคลังสหรัฐได้คว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัสเซีย 21 คน และบริษัท 9 แห่ง
ทางด้านนายเลโอนิด สลัตสกี ประธานคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ประจำสภาผู้แทนราษฎรรัสเซีย กล่าวว่า การที่สหรัฐประกาศคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ถือเป็นการกระทำที่จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและสหรัฐย่ำแย่ลง พร้อมกล่าวว่า รัสเซียจะตอบโต้ต่อการคว่ำบาตรดังกล่าว
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีกำหนดแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ต่อสภาคองเกรสในวันที่ 30 ม.ค.เวลา 21.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเช้าของวันที่ 31 ม.ค.เวลา 09.00 น.ตามเวลาไทย
การแถลงนโยบายประจำปีดังกล่าว นับเป็นครั้งแรกของปธน.ทรัมป์ หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งในปีที่แล้ว โดยมีการคาดการณ์ว่า ปธน.ทรัมป์จะเปิดเผยโครงการลงทุนในสาธารณูปโภคครั้งใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐตามที่เขาได้เคยรณรงค์หาเสียงในปี 2559 โดยคาดว่า โครงการลงทุนในสาธารณูปโภคจะมีวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 4 กองทุนในช่วงเวลา 10 ปี
-- ตลาดการเงินจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันศุกร์นี้ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย
สำหรับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนธ.ค.ของสหรัฐนั้น ปรับตัวขึ้น 148,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี
-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีกำหนดจัดการประชุมนโยบายการเงินเป็นเวลา 2 วัน ในวันที่ 30-31 ม.ค.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.25-1.50% ในการประชุมเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2560 พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปี 2561
CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ได้แก่ ในการประชุมเดือนมี.ค., มิ.ย. และธ.ค.
-- บริษัทจดทะเบียนรายใหญ่มีเตรียมเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4/2560 ในสัปดาห์นี้ โดยไมโครซอฟต์, เฟซบุ๊ก และเพย์พาล เตรียมเปิดเผยผลประกอบการในวันพุธ ขณะที่อาลีบาบา แอปเปิล อัลฟาเบท และอเมซอน จะเปิดเผยผลประกอบการในวันพฤหัสบดี ส่วนบริษัทไฟเซอร์ โบอิ้ง และยูพีเอส มีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้เช่นกัน
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนม.ค.ของอังกฤษซึ่งรายงานโดยเนชั่นไวด์ ขณะที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนธ.ค. และดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค. จากเฟดดัลลัส
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นจะเปิดเผยอัตราว่างงาน,การใช้จ่ายภาคครัวเรือนและยอดค้าปลีกประจำเดือนธ.ค. ขณะที่ฝรั่งเศสจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2560 , เยอรมนีจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเบื้องต้นเดือนม.ค. ส่วนยูโรสแตทจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซน ซึ่งได้แก่ จีดีพีไตรมาส 4/2560 ,ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค. และความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนม.ค. ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์ส และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.จาก Conference Board
Attach File : 999999999.PNG
admin
Administrator
Post : 32
Re : World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำเดือน มกราคม 2018
on
: Fri January 26,2018, 11:03
World Today: สรุปข่าวน่าติดตามประจำวันที่ 26 มกราคม 2561
-- จับตาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ กล่าวสุนทรพจน์บนเวทีเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันนี้ โดยมีการคาดการณ์กันว่า เขาจะผลักดันนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" และย้ำถึงการทำการค้าที่เสรีและเป็นธรรม
ทำเนียบขาวระบุว่า เนื้อหาในสุนทรพจน์ของปธน.ทรัมป์จะยังคงเหมือนกับที่เขาได้กล่าวในต่างประเทศในปีที่แล้ว ซึ่งก็คือ สหรัฐต้องการมีความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับพันธมิตร แต่สหรัฐก็ต้องการที่จะลดการขาดดุลการค้ากับประเทศเหล่านี้เช่นกัน
-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวผันผวนในช่วงนี้ โดยล่าสุดสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เขาสนับสนุนการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และเชื่อว่าดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นอีก
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้กล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวของ CNBC หลังจากเดินทางถึงเมืองดาวอสเพื่อเข้าร่วมประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) เมื่อวานนี้ว่า เขาสนับสนุนการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และเชื่อว่าดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นอีก เนื่องจากเศรษฐกิจของสหรัฐมีความแข็งแกร่งในหลายภาคส่วน
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังได้กล่าวในเชิงสนับสนุนการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ว่า สื่อมวลชนอาจตีความคำพูดของนายมนูชินผิดไปจากวัตถุประสงค์ที่เขาต้องการจะสื่อ เพราะความจริงแล้ว เศรษฐกิจสหรัฐอยู่ในภาวะที่แข็งแกร่ง และคงไม่มีใครพูดถึงสกุลเงินดอลลาร์ในทิศทางที่ตรงกันข้าม
-- นายสตีเวน มนูชิน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวชี้แจงเมื่อวานนี้ว่า คำกล่าวของเขาเกี่ยวกับค่าเงินดอลลาร์ก่อนหน้านั้นเป็นคำกล่าวที่มีความสมดุล และสอดคล้องกับสิ่งที่เขาเคยกล่าวไว้
นายมนูชินได้ออกมาชี้แจงว่า "ผมคิดว่าความเห็นของผมเกี่ยวกับค่าเงินดอลลาร์มีความชัดเจนอยู่แล้ว โดยมีความสมดุล และสอดคล้องกับสิ่งที่ผมได้กล่าวก่อนหน้านี้ ซึ่งก็คือ เราไม่มีความกังวลต่อค่าเงินดอลลาร์ในระยะสั้น ถึงแม้อาจมีผลกระทบทั้งทางบวกและลบ"
นายมนูชิน เคยกล่าวในการแถลงข่าวในการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า การที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงในระยะนี้ เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยถ้อยแถลงดังกล่าวได้สร้างความปั่นป่วนต่อค่าเงินดอลลาร์ จนส่งผลให้ดอลลาร์ทรุดตัวลงอย่างหนักในขณะนั้น
-- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จัดการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.40% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%
ขณะเดียวกัน ECB ประกาศคงวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโร/เดือน จนถึงเดือนก.ย.
อย่างไรก็ดี ECB ระบุว่า ธนาคารอาจจะขยายเวลาโครงการซื้อพันธบัตรออกไปหลังเดือนก.ย. หากมีความจำเป็น
-- นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวเมื่อวานนี้ว่า การแข็งค่าของยูโรเป็นต้นเหตุของความไม่แน่นอน ซึ่งทำให้ ECB ต้องจับตามองความเคลื่อนไหวของยูโร
ยูโรได้แข็งค่าขึ้นในระยะนี้ ขานรับเศรษฐกิจยูโรโซนที่มีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่ความเสี่ยงด้านการเมืองลดน้อยลง
อย่างไรก็ดี การแข็งค่าของยูโรได้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของยุโรป รวมทั้งภาวะเงินเฟ้อในยูโรโซน ซึ่งจะมีผลต่อการกำหนดนโยบายการเงินของ ECB
-- โอปราห์ วินฟรีย์ พิธีกรและนักธุรกิจหญิงผู้ทรงอิทธิพลของสหรัฐ ดับข่าวลือที่ว่าเธออาจลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2563
วินฟรีย์ระบุในบทสัมภาษณ์ในนิตยสาร InStyle ว่า เธอไม่ได้ให้ความสนใจต่อเรื่องดังกล่าว
"มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันสนใจ และฉันก็ไม่มี DNA สำหรับเรื่องนี้" วินฟรีย์กล่าว
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า กำไรของบริษัทขนาดใหญ่ในภาคอุตสาหกรรมของจีนประจำเดือนธ.ค. ปรับตัวขึ้น 10.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 8.2416 แสนล้านหยวน
ส่วนกำไรภาคอุตสาหกรรมตลอดปี 2560 เพิ่มขึ้น 21% เทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 7.519 ล้านล้านหยวน ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเดือนม.ค.-พ.ย. 2560 ซึ่งขยายตัว 21.9%
-- กระทรวงสื่อสารและกิจการภายในประเทศของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมรวมราคาอาหารสด ปรับตัวขึ้น 0.9% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 12
อย่างไรก็ตาม ดัชนี CPI พื้นฐานซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญนั้น ยังอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่ระดับ 2%
-- กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นเผชิญสภาพอากาศหนาวเย็นที่สุดในรอบ 48 ปีเมื่อวานนี้ หลังจากอุณหภูมิลดต่ำลงถึง -4 องศาเซลเซียส
เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนม.ค.2513 ที่กรุงโตเกียวเผชิญสภาพหนาวเย็นดังกล่าว ขณะที่เขตฟูชู ซึ่งอยู่ชานกรุงโตเกียวมีอุณหภูมิต่ำเป็นประวัติการณ์ถึง -8.4 องศาเซลเซียส
กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นคาดการณ์ว่า ญี่ปุ่นจะยังคงเผชิญความกดอากาศของช่วงฤดูหนาวจนถึงวันพรุ่งนี้ และคาดว่ากรุงโตเกียวจะมีหิมะตกหนาถึง 50 เซนติเมตร
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 17,000 ราย สู่ระดับ 233,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 240,000 ราย
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ลดลงมากกว่าคาดในเดือนธ.ค. โดยดิ่งลง 9.3% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 625,000 ยูนิต ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2559 หลังจากแตะระดับ 689,000 ยูนิตในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2550
Conference Board เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ปรับตัวขึ้น 0.6% ในเดือนธ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.5% หลังจากขยับขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ย.
-- อังกฤษเตรียมรายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2560 เวลา 16.30 น. ของวันนี้ตามเวลาไทย โดยสถาบันวิจัยเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของอังกฤษ (NIESR) คาดการณ์ว่า GDP อังกฤษขยายตัวดีขึ้นใน Q4/60 หลังภาคการผลิต-บริการยังแข็งแกร่ง
สำหรับตัวเลขประจำไตรมาสล่าสุดที่เคยมีการรายงานไว้ สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) รายงานว่า GDP อังกฤษ ยังคงขยายตัวระดับปานกลางในช่วงไตรมาส 3 โดยได้แรงหนุนความแข็งแกร่งของการใช้จ่ายผู้บริโภค แม้เศรษฐกิจเผชิญแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่เป็นผลมาจากงบประมาณที่อัดฉีดเข้าสู่ภาคครัวเรือนก็ตาม
ONS ได้เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของ GDP ในไตรมาส 3 โดยระบุว่ามีการขยายตัว 0.4% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากการประมาณการเบื้องต้น และยังสอคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
-- สหรัฐเตรียมรายงานตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2560 เวลา 20.30 น. ตามเวลาไทย
ก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐได้เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นตัวเลขประมาณการขั้นสุดท้าย สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ที่ระดับ 3.2% โดยต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.3%
Attach File : 580300000067_1.jpg
admin
Administrator
Post : 32
Re : World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำเดือน มกราคม 2018
on
: Thu January 25,2018, 10:17
World Today: สรุปข่าวน่าติดตามประจำวันที่ 25 มกราคม 2561
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) หลังจากนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้กล่าวในการแถลงข่าวในการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอสเมื่อวานนี้ว่า การที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงในระยะนี้ เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ
-- สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวในการแถลงข่าวในการประชุม WEF ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เมื่อวานนี้ สหรัฐเป็นประเทศที่เปิดกว้างสำหรับภาคธุรกิจ และการที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงในระยะนี้ ก็เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ส่งออกของอเมริกา
ทั้งนี้ นายมนูชินกล่าวว่า สหรัฐให้การสนับสนุนการค้าที่เสรี และเป็นธรรม และเสริมว่าการขยายตัวที่แข็งแกร่งของสหรัฐจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ และไม่ขัดแย้งกับนโยบาย"อเมริกาต้องมาก่อน"ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
--นายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ กล่าวในการประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า สหรัฐจะไม่ยอมตกเป็นเหยื่อของสงครามการค้าโลกอีกต่อไป พร้อมกับส่งสัญญาณว่า รัฐบาลสหรัฐอาจปรับขึ้นภาษีศุลกากรอีกในอนาคต หลังจากที่ก่อนหน้านี้เพิ่งได้มีการลงนามบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีโซลาร์เซลล์และเครื่องซักผ้า
รมว.พาณิชย์สหรัฐยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทางการสหรัฐกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนจีนในเรื่องการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อหามาตรการจัดการกับจีนต่อไป ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการประกาศสงครามการค้าและปกป้องสหรัฐจากการค้าที่ไม่เป็นธรรมจากชาติอื่นๆ
นายรอสส์ เปิดเผยว่า สงครามการค้าได้เกิดขึ้นมาสักระยะหนึ่งแล้ว ส่งผลให้วันนี้สหรัฐต้องหามาตรการปกป้องตนเองจากการค้าที่ไม่เป็นธรรม หนึ่งในนั้นคือการปรับขึ้นภาษีศุลกากร ซึ่งไม่ได้เป็นการกีดกันทางการค้า แต่เป็นการทำตามกฎระเบียบที่ควรจะเป็นเท่านั้น
ทั้งนี้ การแสดงความเห็นของนายรอสส์ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่า ข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเครื่องซักผ้าและแผงพลังงานแสงอาทิตย์ โดยมาตรการดังกล่าวจะช่วยปกป้องผู้ผลิตในสหรัฐ แต่จะส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตจากจีน
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นมายืนที่เหนือระดับ 65 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 10
สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจาก EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 411.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 19 ม.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 10
ทั้งนี้ ข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบของ EIA ออกมาสวนทางกับที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้น 4.8 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ดังกล่าว
-- สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองร่วงลงในเดือนธ.ค.มากกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ เนื่องจากภาวะขาดแคลนบ้านได้ส่งผลให้ราคาบ้านแพงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันตลาด
ทั้งนี้ ยอดขายบ้านมือสองร่วงลง 3.6% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.57 ล้านยูนิต โดยลดลงทุกภูมิภาค
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านมือสองจะลดลง 2.2% สู่ระดับ 5.70 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค.
--ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต และภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ร่วงลงแตะระดับ 53.8 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน จากระดับ 54.1 ในเดือนธ.ค.
อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว โดยได้แรงหนุนจากการจ้างงาน และคำสั่งซื้อใหม่
ส่วนดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ 55.5 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 34 เดือน จากระดับ 55.1 ในเดือนธ.ค.
สำหรับดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ 53.3 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน จากระดับ 53.7 ในเดือนธ.ค.
-- ไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซน ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 58.6 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 139 เดือน หรือในรอบเกือบ 12 ปี จากระดับ 58.1 ในเดือนธ.ค.
ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า กิจกรรมในภาคธุรกิจของยูโรโซนยังคงมีการขยายตัว โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการจ้างงานซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 รวมทั้งคำสั่งซื้อใหม่ที่พุ่งขึ้น
สำหรับดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ 57.6 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 125 เดือน หรือในรอบกว่า 10 ปี โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 56.6 ในเดือนธ.ค.
อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้น อยู่ที่ 61.1 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ลดลงจากระดับ 62.2 ในเดือนธ.ค.
-- กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือครั้งใหม่ในวันนี้ เพื่อกดดันให้เกาหลีเหนือยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ และขีปนาวุธ
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังประกาศคว่ำบาตรบริษัท 9 แห่ง, เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ 16 ราย และเรือ 6 ลำ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในการสนับสนุนโครงการอาวุธของเกาหลีเหนือ
บริษัท 2 แห่งที่อยู่ในรายชื่อถูกคว่ำบาตรเป็นบริษัทของจีนซึ่งได้ส่งออกโลหะ และชิ้นส่วนสำหรับผลิตอาวุธให้แก่เกาหลีเหนือ ขณะที่เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือที่ถูกคว่ำบาตรเป็นเจ้าหน้าที่ซึ่งทำงานอยู่ในจีน รัสเซีย และจอร์เจีย
-- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีกำหนดการประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ โดยนักลงทุนจับตาการประชุม ECB อย่างใกล้ชิด หลังจากเจ้าหน้าที่ ECB ได้ออกมาส่งสัญญาณก่อนหน้านี้ว่า ECB อาจประกาศยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากเดือนก.ย.นี้ หากเศรษฐกิจและเงินเฟ้อมีการปรับตัวตามที่ ECB คาดการณ์ไว้
-- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจในประเทศต่างๆ ที่จะเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จากสถาบัน GfK และความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนม.ค.จากสถาบัน IFO ของเยอรมนี, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนธ.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค. ของสหรัฐ รวมถึงการประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB)
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค. ขณะที่ญี่ปุ่นจะเปิดเผยรายงานการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค., จีนจะเปิดเผยกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค., ฝรั่งเศสจะเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.และความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนม.ค., อังกฤษจะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2560 ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค. และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2560
Attach File : IMG_2435_3.JPG
admin
Administrator
Post : 32
Re : World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำเดือน มกราคม 2018
on
: Wed January 24,2018, 10:13
World Today: สรุปข่าวน่าติดตามประจำวันที่ 24 มกราคม 2561
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้ลงนามบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่สำหรับใช้ในที่พักอาศัยและแผงพลังงานแสงอาทิตย์ โดยมาตรการดังกล่าวจะช่วยปกป้องผู้ผลิตในสหรัฐ แต่จะส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตจากจีนและเกาหลีใต้
ทรัมป์กล่าวในขณะลงนามบังคับใช้มาตรการดังกล่าวว่า "เรากำลังนำธุรกิจกลับคืนสู่สหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี" ขณะที่เจ้าหน้าที่การค้าสหรัฐระบุว่า มาตรการดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 7 ก.พ.นี้
-- กระทรวงพาณิชย์จีนแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่สำหรับใช้ในที่พักอาศัยและแผงพลังงานแสงอาทิตย์ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ โดยระบุว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการใช้มาตรการเยียวยาการค้าในทางมิชอบ
ทั้งนี้ จีนเป็นผู้ผลิตแผงพลังงานแสงอาทิตย์รายใหญ่ที่สุดในโลก และยังส่งออกเครื่องซักผ้าจำนวนกว่า 21 ล้านเครื่องในปีที่ผ่านมา ทำเงินเกือบ 3 พันล้านดอลลาร์
-- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดเกินดุลการค้าเดือนธ.ค.2560 อยู่ที่ระดับ 3.59 แสนล้านเยน ซึ่งเป็นการเกินดุลการค้าติดต่อกันเดือนที่ 7 อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวปรับตัวลง 43.5% จากเดือนธ.ค.ปีก่อนหน้า เนื่องจากยอดนำเข้าขยายตัวมากกว่ายอดส่งออก
ทั้งนี้ ยอดส่งออกเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 9.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 7.30 ล้านล้านเยน ขณะที่ยอดนำเข้าเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 14.9% สู่ระดับ 6.94 ล้านล้านเยน
-- นาย ฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ออกมายืนยันว่า BOJ จะเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินแบบเชิงรุกต่อไป โดยระบุว่า อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นยังคงอยู่ในระดับต่ำเกินกว่าที่ BOJ จะตัดสินใจถอนมาตรการกระตุ้นทางการเงิน
"เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังขยายตัวในระดับปานกลาง แต่อัตราเงินเฟ้อยังคงอ่อนแอ ขณะที่ประเทศอื่นๆกำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่คล้ายกัน อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อในประเทศเหล่านั้นเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 1.5% แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่นับรวมพลังงานในญี่ปุ่นนั้น อยู่เหนือระดับ 0% เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อในญี่ปุ่นยังคงอยู่ห่างจากเป้าหมายที่ระดับ 2% และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ BOJ ยังไม่มีการอภิปรายเรื่องการถอนนโยบายผ่อนคลายการเงินเชิงรุก" นายคุโรดะกล่าวในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อวานนี้
-- วุฒิสภาสหรัฐมีมติรับรองนายเจอโรม พาวเวล ให้ดำรงตำแหน่งประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คนใหม่ แทนนางเจเน็ต เยลเลน ซึ่งจะสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดในวันที่ 3 ก.พ.นี้
ทั้งนี้ วุฒิสภาสหรัฐได้ลงมติรับรองนายพาวเวลด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 85 ต่อ 12 เสียงเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ
-- รัฐบาลสิงคโปร์เปิดเผยว่า 11 ชาติสมาชิกข้อตกลงการค้าเสรีภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) เห็นชอบให้รับข้อตกลงฉบับแก้ไขหลังการประชุมร่วมกันเป็นเวลา 2 วันที่กรุงโตเกียว และมีกำหนดลงนามภายในต้นเดือนมี.ค.นี้
ข้อตกลงฉบับใหม่นี้มีชื่อว่า "ข้อตกลงการค้าเสรีภาคพื้นแปซิฟิกฉบับครอบคลุมและก้าวหน้า" เป็นข้อตกลงเขตการค้าเสรีที่แก้ไขจากข้อตกลงฉบับก่อนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกเมื่อไม่นานมานี้
-- ทางการเกาหลีใต้ประกาศห้ามการใช้บัญชีธนาคารที่ไม่เปิดเผยชื่อเจ้าของบัญชีทำการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลเมื่อวานนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดการฟอกเงิน ขณะที่ผู้ที่มีกระเป๋าเงินดิจิทัลแต่ไม่ระบุตัวตน จะต้องทำการผูกกระเป๋าเข้ากับบัญชีธนาคารที่ใช้ชื่อจริง และทำการยืนยันข้อมูลส่วนบุคคล
ทั้งนี้ เกาหลีใต้นับเป็นตลาดซื้อขายบิตคอยน์ และสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ รายใหญ่อันดับ 3 ของโลก รองจากญี่ปุ่น และสหรัฐ โดยมีสัดส่วนการซื้อขายบิตคอยน์ 6-12% ของปริมาณการซื้อขายทั่วโลก ขณะที่มีการซื้อขายอีเธอเรียม 14% และริพเพิล 33%
-- นางอดีนา ฟรีดแมน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของตลาด Nasdaq กล่าวว่า Nasdaq กำลังพิจารณาการออกสัญญาฟิวเจอร์สของสกุลเงินดิจิทัล แต่ในรูปแบบที่แตกต่างออกไปจากที่ CBOE Global Markets Inc และ Chicago Mercantile Exchange (CME) ได้ทำการออกบิตคอยน์ฟิวเจอร์สก่อนหน้านี้
"เรากำลังพิจารณาแนวคิดในการออกสัญญาฟิวเจอร์สของสกุลเงินดิจิทัลกับพันธมิตรอีกรายหนึ่ง และเรากำลังพิจารณาการบริหารความเสี่ยง เพื่อให้มั่นใจว่าเรามีการจัดเตรียมโปรโตคอลที่ถูกต้อง และมั่นใจว่ามีความต้องการที่เพียงพอในตลาด และสัญญาฟิวเจอร์สของเราจะแตกต่างจากสิ่งที่คู่แข่งได้นำเสนออยู่ในขณะนี้" นางฟรีดแมนกล่าว
- คาร์ฟูร์ บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของฝรั่งเศส ประกาศลดจำนวนพนักงาน 2,400 คนในฝรั่งเศส เพื่อลดค่าใช้จ่าย ขณะที่บริษัทจะหันไปเพิ่มการลงทุนในตลาดออนไลน์
คาร์ฟูร์แถลงว่า บริษัทจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงประสิทธิภาพ และความสามารถในการแข่งขันในการให้บริการต่อลูกค้า ตามโครงการ"คาร์ฟูร์ 2022" ซึ่งทำให้บริษัทจำเป็นต้องลดต้นทุน และใช้นโยบายการลงทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
-- เจพีมอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ เมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์ เปิดเผยแผนการลงทุนวงเงิน 2 หมื่นล้านดอลลาร์จากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารจะได้รับประโยชน์จากมาตรการปฏิรูปภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ทั้งนี้ เจพีมอร์แกน เชส ระบุว่า แผนการดังกล่าวมีระยะเวลา 5 ปี โดยธนาคารจะเพิ่มค่าจ้างเฉลี่ย 10% สำหรับพนักงานจำนวน 22,000 คน โดยอยู่ในช่วง 15-18 ดอลลาร์/ชั่วโมง
นอกจากนี้ เจพีมอร์แกน เชสจะรับพนักงานเพิ่มอีก 4,000 คน ขณะที่จะเปิดสาขาในเมืองใหม่ๆ จำนวน 400 สาขา และเพิ่มการปล่อยสินเชื่อให้แก่ธุรกิจรายย่อยอีก 4 พันล้านดอลลาร์ รวมถึงเพิ่มวงเงินสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยอีก 25% สู่ระดับ 5 หมื่นล้านดอลลาร์
-- ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีกำหนดจัดการประชุมนโยบายการเงินและแถลงอัตราดอกเบี้ยในวันพรุ่งนี้ โดยก่อนหน้านี้ นายอาร์โด แฮนสัน กรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ECB ได้ออกมาส่งสัญญาณว่า ECB อาจประกาศยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากเดือนก.ย.นี้ หากเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อมีการปรับตัวตามที่ ECB คาดการณ์ไว้
-- นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในวันนี้ โดยทางการมาเลเซียจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค. ขณะที่มาร์กิตจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนม.ค. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนม.ค.ของฝรั่งเศส เยอรมนี สหภาพยุโรป และสหรัฐ ขณะที่ทางการสหรัฐเองก็จะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ย., ยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
ส่วนในวันพรุ่งนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2560 ขณะที่เยอรมนีจะเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.จากสถาบัน GfK และสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนธ.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค.
Attach File : S__15671307_5.jpg
admin
Administrator
Post : 32
Re : World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำเดือน มกราคม 2018
on
: Tue January 23,2018, 10:10
World Today: สรุปข่าวประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 23 มกราคม 2561
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ลงนามเพื่อบังคับใช้กฎหมายงบประมาณชั่วคราวเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดของภาวะการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา และยังเปิดทางให้หน่วยงานส่วนใหญ่ของรัฐบาลสหรัฐสามารถกลับมาดำเนินการได้อีกครั้งในวันนี้
การลงนามบังคับใช้กฎหมายงบประมาณชั่วคราวฉบับนี้ จะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐมีงบประมาณในการบริหารประเทศจนถึงวันที่ 8 ก.พ.
วุฒิสภาสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียงอย่างท่วมท้น 81 ต่อ 18 เสียง ให้ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเมื่อวานนนี้ ก่อนที่จะส่งไปให้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเพื่อการพิจารณาต่อไป ซึ่งในเวลาต่อมา สภาผู้แทนราษฏรสหรัฐก็มีมติด้วยคะแนนเสียง 266 ต่อ 150 เสียง ให้ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณฉบับดังกล่าว
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (22 ม.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮด้วยเช่นกัน หลังจากวุฒิสภาสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ ก่อนที่จะส่งไปให้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐทำการพิจารณาต่อไป และหลังจากนั้นจะส่งต่อให้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,214.60 จุด เพิ่มขึ้น 142.88 จุด หรือ +0.55% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,832.97 จุด เพิ่มขึ้น 22.67 จุด หรือ +0.81% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,408.03 จุด เพิ่มขึ้น 71.65 จุด หรือ +0.98%
--กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ และปีหน้า สู่ระดับ 3.9% โดยปรับเพิ่มขึ้น 0.2%
IMF ระบุว่า การปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวมีสาเหตุจากแรงผลักดันการขยายตัวในระดับโลกที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งจากอานิสงส์ของการที่รัฐบาลสหรัฐภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทำการปฏิรูประบบภาษี
ทั้งนี้ IMF เปิดเผยรายงานเวิลด์ อิโคโนมิก เอาท์ลุค (WEO) หรือ"แนวโน้มเศรษฐกิจโลก"เมื่อวานนี้ ก่อนที่การประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรั่ม (WEF) จะเริ่มขึ้นในวันนี้ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์
--ตลาดการเงินจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งจะเสร็จสิ้นลงในวันนี้ ขณะที่มีกระแสคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า คณะกรรมการบริหารของ BOJ จะคงนโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป แม้ว่าจะมีสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจ ในขณะที่เงินเฟ้อของญี่ปุ่นยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าเป้าหมาย
นอกจากนี้ ตลาดการเงินยังรอดูการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการ BOJ ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมในวันนี้ เพื่อจับสัญญาณบ่งชี้ถึงทิศทางการดำเนินนโยบายของ BOJ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ BOJ ได้ปรับลดปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลในช่วงต้นเดือนนี้ ซึ่งนักลงทุนต่างมองว่าการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นการส่งสัญญาณการคุมเข้มนโยบายในอนาคต และยังทำให้อัตราดอกเบี้ยระยะยาวปรับตัวสูงขึ้นและเงินเยนแข็งค่าขึ้น
--ผู้แทนของแคนาดา เม็กซิโก และสหรัฐจะเปิดการเจรจารอบ 6 เกี่ยวกับข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ในวันนี้ถึงวันที่ 28 ม.ค. ที่เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ จะประกาศนำสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลง NAFTA ในเร็วๆนี้ หลังจากที่เขาขู่ที่จะนำสหรัฐถอนตัวอยู่หลายครั้ง
--นายวิมโบห์ ซานโตโซ ประธานสำนักงานกำกับสถาบันการเงินอินโดนีเซีย (OJK) กล่าวว่า OJK ประกาศห้ามสถาบันการเงินในประเทศใช้บิตคอยน์ หรือสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ในการทำธุรกรรมทั่วประเทศ
คำสั่งดังกล่าวเป็นไปตามกฎหมายของอินโดนีเซียที่ระบุว่า รูเปียห์ถือเป็นสกุลเงินเดียวที่ได้รับอนุญาตสำหรับการทำธุรกรรมในประเทศ
นายซานโตโซระบุว่า เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจสอบรายงานข่าวที่ว่า มีการใช้บิตคอยน์ในการทำธุรกรรมในเกาะบาหลี
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนตั้งแต่ปีที่แล้ว หลังจากมีการพบโฆษณาออนไลน์ของธุรกิจหลายแห่งบนเกาะบาหลีที่ประกาศรับบิตคอยน์สำหรับการชำระค่าบริการ
--นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจในประเทศต่างๆ ที่จะเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค.ของสิงคโปร์, ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนม.ค.ของอียูและเยอรมนีจากสถาบัน ZEW, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนม.ค.ของเยอรมนี, ดัชนีการผลิตเดือนม.ค.ของสหรัฐโดยเฟดสาขาริชมอนด์ และสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์จากการปิโตรเลียมสหรัฐ (API)
ส่วนในวันพรุ่งนี้ มาร์กิตจะรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นภาคการผลิต และดัชนี PMI เบื้องต้นภาคบริการเดือนม.ค.ของฝรั่งเศส เยอรมนี อียู และสหรัฐ ขณะที่ญี่ปุ่นจะเปิดเผยดุลการค้าเดือนธ.ค. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ย. อังกฤษจะรายงานอัตราว่างงานเดือนพ.ย. ด้านสหรัฐจะรายงานดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ย. ยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ
Attach File : เทรดทอง1_3.PNG
admin
Administrator
Post : 32
Re : World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำเดือน มกราคม 2018
on
: Mon January 22,2018, 14:41
World Today: สรุปข่าวประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 22 มกราคม 2561
หน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลสหรัฐได้เข้าสู่ภาวะชัตดาวน์ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ หรือตรงกับช่วงเที่ยงวันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาไทย หลังจากที่วุฒิสภาสหรัฐไม่สามารถรวบรวมคะแนนเสียงได้เพียงพอที่จะผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว เพื่อช่วยให้รัฐบาลกลางสหรัฐมีงบประมาณในการดำเนินงานต่อไปเป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์
-- นางซาราห์ ฮัคคาบี แซนเดอร์ส โฆษกประจำทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้โทรศัพท์พูดคุยกับแกนนำสภาคองเกรสและสมาชิกหลายคนในคณะทำงานของรัฐบาลเมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐ เกี่ยวกับผลกระทบของการที่หน่วยงานของรัฐบาลบางส่วนได้ถูกชัตดาวน์ หลังจากวุฒิสภาไม่ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว
นางแซนเดอร์สกล่าวว่า "คณะทำงานของประธานาธิบดีทรัมป์กำลังทำงานกันอย่างหนัก เพื่อเร่งผลักดันให้หน่วยงานของรัฐบาลสามารถกลับมาดำเนินงานได้อีกครั้ง และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าบรรดาทหารและครอบครัวของพวกเขา รวมทั้งเด็กๆผู้ด้อยโอกาส และชาวอเมริกันทุกคน จะได้รับการดูแลต่อไป"
-- ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 94.4 ในกลางเดือนม.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีจะดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 97.0 หลังจากอยู่ที่ระดับ 95.9 ในเดือนธ.ค.
นายริชาร์ด เคอร์ติน หัวหน้านักวิเคราะห์สำหรับการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภค กล่าวว่า ผู้บริโภคกังวลต่อความล่าช้าในการได้รับอานิสงส์จากมาตรการปฏิรูปภาษี
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐเป็นการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภค 500 รายต่อภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งได้แก่ ฐานะการเงินส่วนบุคคล, ภาวะเงินเฟ้อ, การว่างงาน, อัตราดอกเบี้ย และนโยบายรัฐบาล
-- นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐในเดือนหน้าว่า ทรัมป์จะดำเนินมาตรการที่แข็งกร้าวต่อจีนในประเด็นการค้าหรือไม่ โดยตลอด 1 ปีที่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐนั้น เขาไม่สามารถสกัดการขยายตัวของยอดเกินดุลการค้าที่จีนมีต่อสหรัฐได้
ในช่วงที่ผ่านมานั้น ทรัมป์ไม่ได้ใช้มาตรการที่แข็งกร้าวเกี่ยวกับนโยบายการค้ากับจีน เพียงแต่สั่งการให้คณะทำงานของเขาเร่งศึกษาปัญหาต่างๆที่ทำให้สหรัฐขาดดุลการค้ากับจีน แทนการใช้นโยบายคุมเข้มเกี่ยวกับภาษีนำเข้า
ส่วนเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้มีโอกาสหารือทางโทรศัพท์ร่วมกันนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน โดยนายสีกล่าวว่า จีนและสหรัฐควรหาวิธีที่สร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจและการค้าที่ทั้งสองประเทศต่างก็เผชิญอยู่ในขณะนี้ โดยผ่านการเปิดตลาดซึ่งกันและกัน ซึ่งจะทำไปสู่การรับผลประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นร่วมกัน
-- พรรคสังคมประชาธิปไตย (SPD) ของเยอรมนีได้ตกลงที่จะเจรจาเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลผสมร่วมกับพรรคสหภาพสังคมคริสเตียน (CSU) ของนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา พรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU), CSU และพรรค SPD ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาล โดยข้อตกลงที่แกนนำทั้ง 3 พรรคเห็นพ้องกันในวันดังกล่าวนั้น รวมถึงการทำข้อตกลงกันว่าจะไม่มีการปรับขึ้นภาษี และจะจำกัดจำนวนผู้อพยพเข้าประเทศให้อยู่ในช่วง 180,000-220,000 คนต่อปี รวมทั้งตกลงที่จะสร้างความเข้มแข็งให้แก่สหภาพยุโรป (EU) ด้วยการให้เยอรมนีสมทบเงินช่วยเหลือ EU มากขึ้น
-- คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) เปิดเผยว่า เกาหลีเหนือจะส่งนักกีฬา 22 ราย พร้อมด้วยโค้ชและเจ้าหน้าที่อีก 24 ราย เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวในเดือนหน้าที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยคณะนักกีฬาดังกล่าวจะเข้าร่วมในการแข่งขันกีฬา 3 รายการ โดยการเข้าร่วมในการแข่งขันของเกาหลีเหนือครั้งนี้ได้รับความเห็นชอบในที่ประชุมระหว่างนายโทมัส บาค ประธาน IOC คณะผู้จัดงานการแข่งขัน และคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกของทั้ง 2 ประเทศ
ทั้งนี้ ผู้แทนเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะร่วมเดินขบวนเข้าสู่พิธีเปิดการแข่งขันภายใต้ชื่อ "เกาหลี" รวมทั้งถือธงรวมชาติเกาหลี โดยเปิดเพลงอารีรัง
-- นักลงทุนในตลาดการเงินจับตาการประชุมของธนาคารกลางต่างๆในสัปดาห์นี้ โดยในวันพรุ่งนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 22-23 นี้ ส่วนธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมนโยบายการเงินในวันพฤหัสบดีนี้ ทางด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 30-31 ม.ค.นี้
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า BOJ จะยังคงนโยบายการเงินไว้ในการประชุมวันที่ 22-23 มี.ค.นี้ และคาดการณ์ว่า BOJ จะเริ่มคุมเข้มนโยบายในช่วงเดือนก.ย.หรือต.ค.
ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ที่ประชุมเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ในกรอบ 1.25%-1.50% ในการประชุมวันที่ 30-31 ม.ค.นี้
-- นอกเหนือจากการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆแล้ว นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้เช่นกัน โดยในวันนี้ เกาหลีใต้จะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค. และสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีกิจกรรมเศรษฐกิจทั่วประเทศเดือนธ.ค.จากเฟดสาขาชิคาโก
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ฟิลิปปินส์จะเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2560 ขณะที่สถาบัน ZEW จะเปิดเผยความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนม.ค.ของสหภาพยุโรปและเยอรมนี ขณะที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีการผลิตเดือนม.ค.จากเฟดสาขาริชมอนด์
Attach File : S__15671308_4.jpg
admin
Administrator
Post : 32
Re : World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำเดือน มกราคม 2018
on
: Fri January 19,2018, 09:08
World Today: สรุปข่าวประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 19 มกราคม 2561
-- จับตาความเคลื่อนไหวในสภาคองเกรสสหรัฐวันนี้ หลังเกิดกระแสวิตกกังวลว่าสภาคองเกรสสหรัฐอาจไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวได้ทันเส้นตายในวันนี้ ซึ่งจะส่งผลให้มีการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือ ชัตดาวน์
ล่าสุดสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติด้วยคะแนนเสียง 230 ต่อ 197 ให้ผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเมื่อคืนนี้ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งจะช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการถูกชัตดาวน์ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งให้วุฒิสภาสหรัฐพิจารณาเป็นลำดับต่อไป
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่นอนว่า วุฒิสภาสหรัฐจะสามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวฉบับนี้หรือไม่ เนื่องจากมีวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตบางคนกล่าวว่า พวกเขาจะโหวตคัดค้านร่างกฎหมายฉบับนี้
หากวุฒิสภาไม่สามารถลงมติอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวได้ทันก่อนเส้นตายในวันนี้ ก็จะส่งผลให้หน่วยงานของรัฐบาลถูกชัตดาวน์ เนื่องจากขาดงบประมาณในการดำเนินงาน
-- ยุโรปได้รับผลกระทบอย่างหนักจากพายุฤดูหนาวเมื่อวานนี้ ส่งผลให้มีการยกเลิกเที่ยวบิน และการเดินทางด้วยรถไฟ ขณะที่เจ้าหน้าที่แนะนำให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน
สายการบิน KLM ประกาศยกเลิกเที่ยวบินกว่า 200 เที่ยว ขณะที่ท่าอากาศยาน Schiphol ในกรุงอัมสเตอร์ดัมของเนเธอร์แลนด์ประกาศยกเลิก และเลื่อนเวลาเที่ยวบินจำนวนมาก หลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่าจะมีลมกรรโชกแรงถึง 140 กม./ชม.
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการรายงานผู้เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บจากสภาพอากาศดังกล่าว
-- สกุลเงินดิจิทัลฟื้นตัวเมื่อคืนนี้ หลังจากดิ่งลงอย่างหนักติดต่อกัน 2 วัน จนทำให้มูลค่าของบิตคอยน์วูบหายไปมากกว่า 50% จากความกังวลเกี่ยวกับการที่จีนและเกาหลีใต้อาจมีมาตรการห้ามซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล
-- เมื่อวานนี้มีรายงานข่าวว่า เกาหลีใต้เตรียมพิจารณาเรื่องการยุติการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลในประเทศ หลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงอันตรายของสกุลเงินดังกล่าวไปทั่วโลก
ประธานกรรมาธิการด้านการเงินของเกาหลีใต้ตอบคำถามต่อรัฐสภาว่า "รัฐบาลกำลังพิจารณาว่าจะปิดการซื้อขายสกุลเงินเสมือนจริงในประเทศทั้งหมด หรือจะระงับการซื้อขายเฉพาะสกุลเงินที่ผิดกฎหมาย"
ด้านนายลี จู ยอล ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) แถลงว่า "เงินดิจิทัลไม่ใช่สกุลเงินที่ถูกต้องตามกฎหมายและยังไม่มีการนำมาใช้ในปัจจุบัน"
-- กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ออกรายงานประจำเดือนม.ค. โดยระบุว่า ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกได้เพิ่มขึ้นในเดือนธ.ค. และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอีกในปีนี้ อันเนื่องจากการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มประเทศนอกโอเปก
รายงานดังกล่าวคาดการณ์ว่า กลุ่มประเทศนอกโอเปกจะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.15 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ สู่ระดับ 58.94 ล้านบาร์เรล/วัน โดยประเทศในกลุ่มนอกโอเปกที่ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น ได้แก่ สหรัฐ แคนาดา เม็กซิโก สหราชอาณาจักร เดนมาร์ก อินโดนีเซีย บราซิล และลาตินอเมริกา
นอกจากนี้ รายงานของโอเปกยังระบุว่า ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มขึ้น 0.40 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนธ.ค. สู่ระดับ 97.49 ล้านบาร์เรล/วัน
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ตลอดปี 2560 ขยายตัว 6.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของทางการจีนที่ระดับ 6.5% ส่วน GDP ไตรมาส 4/2560 ขยายตัว 6.8%
การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรตลอดปี 2560 ขยายตัว 7.2% ซึ่งชะลอลง 0.3% จากระดับการขยายตัวในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2560 และลดลง 0.9% จากระดับการขยายตัวปี 2559
การลงทุนด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตลอดปี 2560 ขยายตัว 7% เทียบรายปี ซึ่งชะลอลง 1.1% จากระดับการขยายตัวในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2560 แต่ปรับตัวขึ้น 0.1% จากระดับการขยายตัวในปี 2559
การผลิตภาคอุตสาหกรรมตลอดปี 2560 ขยายตัว 6.6% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่ขยายตัว 6%
ยอดค้าปลีกตลอดปี 2560 ขยายตัว 10.2% ซึ่งชะลอตัวลง 0.2% จากระดับการขยายตัวของปีก่อนหน้า
-- ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจที่จะมีการเปิดเผยวันนี้ อินโดนีเซียมีกำหนดการรายงานตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ไตรมาส 4/2560 เวลา 08.00 น. และยอดขายรถยนต์เดือนธ.ค. เวลา 13.00 น. ตามเวลาไทย
เยอรมนีเตรียมรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค. เวลา 14.00 น.
ยุโรปเตรียมรายงานตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนพ.ย. เวลา 16.00 น.
อังกฤษเตรียมรายงานตัวเลขยอดค้าปลีกเดือนธ.ค. เวลา 16.30 น.
และปิดท้ายด้วยรายงานจากสหรัฐ ได้แก่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน เวลา 22.00 น
Attach File : IMG_2435_2.JPG
admin
Administrator
Post : 32
Re : World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำเดือน มกราคม 2018
on
: Thu January 18,2018, 11:19
World Today: สรุปข่าวประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 18 มกราคม 2561
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุแนว 26,000 จุดเป็นครั้งแรกเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดทำนิวไฮพร้อมกันอีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนขานรับรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หรือ "Beige Book" ซึ่งบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีการขยายตัวได้ดี และมีแนวโน้มที่สดใสในปี 2561 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของบริษัทจดทะเบียน
-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจทั้ง 12 เขต หรือ "Beige Book" เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงขยายตัวเล็กน้อยจนถึงปานกลางในช่วงปลายเดือนพ.ย.2560 จนถึงต้นปี 2561 ขณะที่ค่าแรงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ รายงาน Beige Book ยังระบุว่า "แนวโน้มเศรษฐกิจทั่วประเทศของสหรัฐในปี 2561 ยังคงสดใส โดยเขตส่วนใหญ่รายงานว่า ตลาดแรงงานยังคงอยู่ในภาวะตึงตัวและยังสามารถเปิดรับพนักงานที่มีความสามารถในทุกภาคส่วน
การเปิดเผยรายงาน Beige Book ครั้งล่าสุดนี้ มีขึ้นก่อนที่การประชุมเฟดครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 30-31 ม.ค.นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ในกรอบ 1.25%-1.50% ในการประชุมครั้งนี้
--ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐพุ่งขึ้น 0.9% ในเดือนธ.ค. โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ในการทำความร้อน ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นในสหรัฐ
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นเพียง 0.4% ในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย.
การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 8.2% ในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2553
นอกจากนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 1.8% ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรก และเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2557
--- บิตคอยน์ดิ่งลงต่ำกว่า 10,000 ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว ขณะที่แรงเทขายสกุลเงินดิจิทัลยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 จากความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับการที่จีนและเกาหลีใต้อาจมีคำสั่งห้ามการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งส่งผลให้บิทคอยน์, อีเธอเรียม และริพเพิล ต่างดิ่งลง และทำให้มูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดวูบหายไปกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ภายในวันเดียว
บิตคอยน์เพิ่งทะยานแตะ 19,343 ดอลลาร์เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่หลังจากนั้นก็ได้ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง และทรุดตัวลงแล้ว 52% เมื่อเทียบจากระดับดังกล่าว
การร่วงลงของบิตคอยน์เมื่อวานนี้ ส่งผลให้มูลค่าตลาดหายวูบไปมากกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง
-- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 24,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2534 ในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการทำนิวไฮของตลาดวอลล์สตรีทเมื่อคืนนี้ รวมทั้งเงินเยนที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ นำโดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ยาง และกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า
--ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.5% ในการประชุมวันนี้ หลังจากที่ปรับอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนพ.ย. 2560 ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2554
--สภาสามัญชนของอังกฤษ (House of Commons) มีมติผ่านร่างกฎหมายว่าด้วยการแยกตัวจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (Brexit) เมื่อคืนนี้ตามเวลาท้องถิ่น
สมาชิกสภาสามัญชนได้ออกเสียงสนับสนุน 324 เสียง และคัดค้าน 295 เสียง โดยร่างกฎหมาย Brexit มีวัตถุประสงค์เพื่อตัดความสัมพันธ์ทางด้านการเมือง การเงิน และด้านกฎหมาย กับทางสหภาพยุโรป
-- กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้แถลงว่า เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะส่งนักกีฬาร่วมลงแข่งขันกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งหญิงในนามทีมเดียวกัน และนักกีฬาจากทั้งสองชาติจะเดินในขบวนพาเหรดร่วมกันภายใต้ธงผืนเดียวกันในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 ที่เกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพในเดือนหน้า
เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้บรรลุข้อตกลงดังกล่าวในการประชุมที่หมู่บ้านปันมุนจอม ซึ่งอยู่ที่ชายแดนของเกาหลีทั้งสองในวันนี้ หลังจากที่เกาหลีใต้ได้เสนอความเห็นดังกล่าวในการประชุมวันที่ 9 ม.ค.
ทั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะเดินพาเหรดเข้าสู่สนามในขบวนเดียวกันในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศในรอบ 11 ปี และจะเป็นการเดินพาเหรดร่วมกันเป็นครั้งที่ 10
-- หนังสือพิมพ์พีเพิลส์ เดลี ของจีนรายงานว่า นายกัว ซูชิง ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลภาคธนาคารของจีน (CBRC) ได้ให้คำมั่นว่า ทางการจีนจะใช้บทลงโทษกลุ่มผู้ถือหุ้นที่มีพฤติกรรมเอาเปรียบโดยอาศัยช่องว่างในโครงสร้างผู้ถือหุ้นของสถาบันการเงิน เพื่อยกระดับการปฏิรูปภาคการเงินและเสถียรภาพในภาคธนาคาร
ประธาน CBRC เปิดเผยว่า ผู้ถือหุ้นบางรายใช้ธนาคารเสมือนตู้กดเงินเพื่อเอาเงินเข้าตัวโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อระบบการเงินในภาพรวม ขณะที่ธนาคารบางรายยังมีการกำกับดูแลไม่รัดกุมมากพอ ส่งผลให้ทางการจีนจำเป็นต้องมีมาตรการลงโทษผู้ที่มีพฤติกรรมเอาเปรียบเหล่านี้
อย่างไรก็ดี ประธาน CBRC ไม่ได้ระบุเจาะจงว่าจะใช้มาตรการลงโทษกับกลุ่มใดบ้าง
-- ทางการจีนเตรียมเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2560 และ GDP ตลอดปี 2560 ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า GDP ปี 2560 ของจีนจะขยายตัวราว 6.8%
ทางด้านนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า เศรษฐกิจจีนตลอดปี 2560 จะขยายตัวราว 6.9% ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวที่รวดเร็วขึ้น หลังจากขยายตัวต่ำสุดในรอบ 26 ปี ในปี 2559
--นอกจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2560 และ GDP ตลอดปี 2560 ของจีนในวันนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. ของญี่ปุ่น รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเบื้องต้นเดือนม.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้
ส่วนในวันพรุ่งนี้ อียูจะเปิดเผยดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนพ.ย. อังกฤษจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนธ.ค. และสหรัฐจะเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
-- นักลงทุนยังคงจับตาว่าสภาคองเกรสสหรัฐจะอนุมัติกฎหมายงบประมาณชั่วคราวได้ทันก่อนวันศุกร์ที่ 19 ม.ค.นี้หรือไม่ เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ ขณะที่ตลาดการเงินกังวลว่า ความขัดแย้งทางการเมืองของสหรัฐในขณะนี้อาจส่งผลให้สหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับการชัตดาวน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดเห็นที่ไม่ลงรอยกันในเรื่องนโยบายรับคนเข้าเมือง
Attach File : S__15671308_3.jpg
admin
Administrator
Post : 32
Re : World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำเดือน มกราคม 2018
on
: Wed January 17,2018, 10:56
World Today: สรุปข่าวประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 17 มกราคม 2561
-- ประเด็นการค้าระหว่างสหรัฐและจีนถูกจับตาอีกครั้ง หลังจากนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนได้หารือทางโทรศัพท์ร่วมกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวานนี้ โดยนายสีกล่าวว่า จีนและสหรัฐควรหาวิธีที่สร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจและการค้าที่ทั้งสองประเทศต่างก็เผชิญอยู่ในขณะนี้ โดยผ่านการเปิดตลาดซึ่งกันและกัน ซึ่งจะทำไปสู่การรับผลประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นร่วมกัน ขณะที่ทรัมป์กล่าวว่า การที่สหรัฐขาดดุลการค้ากับจีนมากขึ้นนั้น อาจเป็นสถานการณ์ที่ไม่ยั่งยืน
นอกจากนี้ ผู้นำจีนและสหรัฐยังได้หารือกันเกี่ยวกับประเด็นคาบสมุทรเกาหลี โดยนายสี จิ้นผิงกล่าวว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรร่วมกันเพื่อเดินหน้าคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการผลักดันให้เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้กลับมาเจรจาร่วมกันอีกครั้ง
-- บิตคอยน์ ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัล ดิ่งลง 18% เมื่อวานนี้ ใกล้หลุดระดับ 11,000 ดอลลาร์ จากความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับการที่จีนและเกาหลีใต้จะออกมาตรการคุมเข้มการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล
บิตคอยน์ร่วงลงสู่ระดับ 11,191.59 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 สัปดาห์ และทำสถิติทรุดตัวลงมากที่สุดภายในวันเดียวในรอบ 3 ปี โดยการดิ่งลงของบิทคอยน์ยังได้ส่งผลกระทบต่อสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ โดยอีเธอเรียมร่วงลง 23% ขณะที่ริพเพิลทรุดตัวลง 33%
-- ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับฐานลงเมื่อคืนนี้ (16 ม.ค.) หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ซึ่งได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงด้วย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่สหรัฐอาจต้องปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,792.86 จุด ลดลง 10.33 จุด หรือ -0.04% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,223.69 จุด ลดลง 37.38 จุด หรือ -0.51% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,776.42 จุด ลดลง 9.82 จุด หรือ -0.35%
-- สกุลเงินเยนแข็งค่าขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตร โดยความเคลื่อนไหวของ BOJ เป็นไปในทิศทางเดียวกับธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ส่งสัญญาณว่าอาจจะยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
นายอาร์โด แฮนสัน กรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ ECB เปิดเผยว่า ECB อาจประกาศยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE หลังจากเดือนก.ย.นี้ หากเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อมีการปรับตัวตามที่ ECB คาดการณ์ไว้
-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ชะลอตัวลงในเดือนม.ค. โดยอยู่ที่ระดับ 17.7 หลังจากแตะระดับ 18.0 ในเดือนธ.ค.
เฟดสาขานิวยอร์กระบุว่า คำสั่งซื้อใหม่ยังคงมีการขยายตัว แต่ในอัตราที่ต่ำกว่าในเดือนธ.ค. ขณะที่ภาคธุรกิจยังคงมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต และยังคงมีแผนใช้จ่ายด้านทุน
-- นายฟรองซัวส์ วิลเลอรอย เดอ กาลอ กรรมการธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า ECB จะต้องจับตาความเคลื่อนไหวของค่าเงินยูโร หลังจากที่ยูโรพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีเทียบดอลลาร์ในช่วงต้นสัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของยูโรโซน และการคาดการณ์ที่ว่า ECB จะคุมเข้มนโยบายการเงินในไม่ช้า
-- ซิตี้กรุ๊ป เปิดเผยว่า ทางธนาคารมีกำไรในไตรมาส 4 ที่ 1.28 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.19 ดอลลาร์/หุ้น
ซิตี้กรุ๊ปยังระบุว่า ธนาคารมีรายได้ 1.7255 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
- โฆษกของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า อังกฤษยังคงตัดสินใจที่จะออกจากสหภาพยุโรป (EU) หลังจากที่ผู้นำ EU เปิดช่องให้อังกฤษทำการทบทวนการตัดสินใจกรณีแยกตัวออกจาก EU (Brexit)
ก่อนหน้านี้ นายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานคณะมนตรียุโรป และนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้เปิดทางให้อังกฤษสามารถมีโอกาสทบทวนการตัดสินใจแยกตัวออกจาก EU อีกครั้ง
-- ทางการอังกฤษเตรียมสอบสวนอดีตผู้บริหารของบริษัทคาริลเลียน ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจก่อสร้างของอังกฤษ เพื่อหาสาเหตุการล้มละลายของบริษัทเก่าแก่ที่มีอายุยาวนานถึง 200 ปี ซึ่งทำธุรกิจก่อสร้างนับตั้งแต่โรงพยาบาลไปจนถึงทางรถไฟ
ทั้งนี้ คาริลเลียนประสบปัญหาสภาพคล่องอย่างหนัก หลังจากที่เกิดความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการที่มีวงเงินลงทุนสูง และการดำเนินธุรกิจที่อยู่ในช่วงขาลง ส่งผลให้บริษัทออกคำเตือนเกี่ยวกับผลกำไรหลายครั้ง ขณะที่ประสบภาวะขาดทุนในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบการเงินมากกว่า 1 พันล้านปอนด์
-- พื้นที่บางส่วนของรัฐเท็กซัสและแถบชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐต้องเผชิญกับพายุฤดูหนาวระลอกใหม่ ส่งผลให้สายการบินหลายแห่งต้องสั่งยกเลิกเที่ยวบินเป็นจำนวนรวมกันกว่าหลายร้อยเที่ยวบิน
สำหรับสายการบินที่สั่งยกเลิกเที่ยวบินแล้ว มีทั้งอเมริกันแอร์ไลน์ส เดลต้าแอร์ไลน์ส และยูไนเต็ดแอร์ไลน์ส ครอบคลุมเที่ยวบินของวันอังคารที่ 16 ม.ค. และพุธที่ 17 ม.ค.
นอกจากนี้ สายการบินบางแห่งยังเตรียมยกเลิกเที่ยวบินเส้นทางนิวยอร์ก บอสตัน และฟิลาเดลเฟียด้วย เนื่องจากพายุดังกล่าวกำลังเคลื่อนตัวไปยังจุดนั้น
Attach File : TheHagueSecurityDeltaCapital_2.jpg
admin
Administrator
Post : 32
Re : World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำเดือน มกราคม 2018
on
: Tue January 16,2018, 13:10
World Today: สรุปข่าวประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 16 มกราคม 2561
ตลาดหุ้นสหรัฐ รวมทั้งตลาดการเงิน และสินค้าโภคภัณฑ์ต่างปิดทำการเมื่อคืนนี้ เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
ส่วนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 1% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับผลประกอบการสถาบันการเงินแข็งแกร่งของธนาคารรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน เชส
-- ทางการจีนวางแผนสกัดการเข้าถึงแพลทฟอร์มและแอพพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งบ่งชี้ว่าจีนยังคงเดินหน้ากวาดล้างการซื้อขายสกุลเงินบิตคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลประเภทอื่นๆ โดยทางการจีนมองว่า สกุลเงินดิจิทัล เป็นต้นตอของความเสี่ยงในระบบการเงิน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากรัฐบาลจีนได้รับรายงานเกี่ยวกับกิจกรรมการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นบนแพลทฟอร์มที่ตั้งขึ้นโดยชาวจีนและต่างชาติ นับตั้งแต่ที่รัฐบาลได้สั่งระงับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลเมื่อปีที่แล้ว โดยทางการจีนได้ออกกฎห้ามการระดมทุนด้วยสกุลเงินดิจิทัล (ICO) หรือ Initial Coin Offering รวมทั้งปิดการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลในหลายตลาด และจำกัดการขุดบิทคอยน์
-- หน่วยงานรัฐบาลสหรัฐตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกชัตดาวน์ภายในสัปดาห์นี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้เปิดเผยว่า เขาอาจยกเลิกข้อตกลงเกี่ยวกับนโยบายรับคนเข้าเมืองของสหรัฐที่จัดทำขึ้นบนความรอมชอมระหว่างพรรคเดโมแครตกับพรรครีพับลิกัน
รายงานข่าวระบุว่า นายสตีเฟน มิลเลอร์ ที่ปรึกษาระดับอาวุโสประจำทำเนียบขาว และนายทอม คัตตอน วุฒิสมาชิกรัฐอาร์คันซอ ซึ่งเป็นนักการเมืองฝ่ายขวาจัดของรีพับลิกัน ได้ขอให้ทรัมป์พิจารณาปฏิเสธข้อตกลงดังกล่าว หลังจากที่ทรัมป์เคยแสดงท่าทีผ่อนปรนโดยยอมให้สมาชิกพรรครีพับลิกันแนวสายกลางทำข้อตกลงกับสมาชิกเดโมแครตได้
ทั้งนี้ ปธน.ทรัมป์กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากกรณีที่เขาใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมในการเรียกประเทศเฮติ เอลซัลวาดอร์ และชาติแอฟริกาอื่นๆว่าเป็น "ประเทศโสโครก" ซึ่งก่อให้เกิดกระแสความกังวลว่า ทั้งสองพรรคอาจไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในเรื่องการรับผู้อพยพได้
--นายอาร์โด แฮนสัน กรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า ECB อาจประกาศยุติโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากเดือนก.ย.นี้ หากเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อมีการปรับตัวตามที่ ECB คาดการณ์ไว้
--กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้แถลงว่า เกาหลีเหนือตกลงที่จะส่งวงออร์เคสตราซึ่งมีสมาชิกจำนวน 140 คนไปยังเกาหลีใต้ในช่วงที่มีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว และพาราลิมปิก ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองพยองชางในวันที่ 9-25 ก.พ.นี้
นอกจากนี้ เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เห็นพ้องที่จะจัดการเจรจาในวันพุธ เกี่ยวกับการที่เกาหลีเหนือจะเข้าร่วมในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพ
--ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อในระดับค้าส่ง ปรับตัวขึ้น 3.1% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงหลังจากที่พุ่งขึ้น 3.5% ในเดือนพ.ย.
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PPI เดือนธ.ค.ของญี่ปุ่นจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.4%
--รัฐบาลอินเดียเปิดเผยว่า ยอดส่งออกเดือนธ.ค.ของอินเดียปรับตัวขึ้น 12.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 2.703 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนพ.ย.ที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 30.6%
ขณะที่ยอดนำเข้าพุ่งขึ้น 21.1% สู่ระดับ 4.191 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2557 ส่งผลให้อินเดียมียอดขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.488 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. 2560 จากระดับ 1.055 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค. 2559
-- คาริลเลียน บริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจก่อสร้างของอังกฤษ ประกาศล้มละลายเมื่อวานนี้ และเข้าสู่กระบวนการขอยกเลิกกิจการและชำระบัญชี เนื่องจากรัฐบาลปฏิเสธที่จะอัดฉีดเงินช่วยเหลือบริษัท ขณะที่สถาบันการเงินต่างปฏิเสธที่จะให้เงินกู้ต่อบริษัทอีกต่อไป หลังจากที่คาริลเลียนประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก โดยมีหนี้สินมากถึง 1.5 พันล้านปอนด์
-- รัฐบาลอังกฤษประกาศว่าจะจ่ายเงินค่าแรงให้กับพนักงานของบริษัทคาริลเลียนที่ทำสัญญาจ้างในภาคส่วนเอกชน เป็นเวลา 2 วัน หลังจากคาริลเลียน ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจก่อสร้างของอังกฤษ ประกาศล้มละลายเมื่อวานนี้
นายเดวิด ลีดิงตัน รัฐมนตรีประจำสำนักคณะรัฐมนตรีอังกฤษซึ่งรับผิดชอบในกรณีของคาริลเลียน กล่าวว่า รัฐบาลอังกฤษจะจ่ายเงินค่าแรงให้กับพนักงานกลุ่มนี้เป็นเวลา 2 วันเท่านั้น พร้อมระบุว่า พนักงานที่ทำสัญญาจ้างในภาคส่วนเอกชน ไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะได้รับความคุ้มครองแบบเดียวกับพนักงานที่ให้บริการเกี่ยวข้องในภาครัฐ
-- นายมาริอาโน ราฮอย นายกรัฐมนตรีสเปน กล่าวว่า สเปนจะใช้อำนาจเข้าปกครองโดยตรงต่อแคว้นกาตาลุญญา หากรัฐสภาคาตาลันแต่งตั้งให้นายคาร์เลส ปุกเดมองต์ อดีตผู้นำแคว้นกาตาลุญญา กลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง
รัฐสภาคาตาลันจะจัดการประชุมสภาเป็นครั้งแรกในวันพรุ่งนี้ (17 ม.ค.) เพื่อคัดเลือกคณะกรรมการสำหรับการบริหารประเทศในลักษณะวันต่อวัน ขณะที่จะมีการลงมติในสภาในวันที่ 31 ม.ค.เพื่อเลือกประธานาธิบดีคนใหม่
ทางด้านสมาชิกรัฐสภาที่สนับสนุนการแยกตัวจากสเปนระบุว่า พวกเขาจะลงมติให้นายปุกเดมองต์กลับมาเป็นผู้นำอีกครั้ง ด้วยการบริหารแคว้นกาตาลุญญาผ่านทางวิดีโอ ลิงค์จากกรุงบรัสเซลส์
--จับตาข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนธ.ค.ของจีน อัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค.ของเยอรมนี อัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค.ของอังกฤษ และดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนม.ค.ของสหรัฐจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นิวยอร์ก
ส่วนในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนพ.ย. อียูจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ยูโรโซนเดือนธ.ค. และสหรัฐจะรายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนธ.ค. ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนม.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) และสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์จากการปิโตรเลียมสหรัฐ (API)
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนประจำไตรมาส 4/2560 ซึ่งจะรายงานในวันพฤหัสบดีนี้
Attach File : IMG_2435_1.JPG
admin
Administrator
Post : 32
Re : World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำเดือน มกราคม 2018
on
: Mon January 15,2018, 09:07
World Today: สรุปข่าวประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 15 มกราคม 2561
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทะยานขึ้นทำนิวไฮเมื่อวันศุกร์ (12 ม.ค.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธนาคารรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงธนาคารเจพีมอร์แกน เชส, แบล็คร็อค ซึ่งเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์ และธนาคารเวลส์ ฟาร์โก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,803.19 จุด เพิ่มขึ้น 228.46 จุด หรือ +0.89% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,786.24 จุด เพิ่มขึ้น 18.68 จุด หรือ +0.67% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,261.06 จุด เพิ่มขึ้น 49.28 จุด หรือ +0.68%
-- เจพีมอร์แกน เชส เปิดเผยายได้ 2.545 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 1.76 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 4 ด้านนักวิเคราะห์คาดว่ารายได้ของเจพีมอร์แกนจะอยู่ที่ระดับ 2.515 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 1.69 ดอลลาร์/หุ้น ขณะที่เวลส์ ฟาร์โก เปิดเผยรายได้ 2.205 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 1.16 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 4 ด้านนักวิเคราะห์คาดว่ารายได้ของเวลส์ฟาร์โกจะอยู่ที่ 2.238 หมื่นล้านดอลลาร์ และกำไร 1.07 ดอลลาร์/หุ้น ส่วนแบล็คร็อคเปิดเผยกำไร 6.24 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.02 ดอลลาร์/หุ้น และรายได้ 3.469 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 3.321 พันล้านดอลลาร์
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากพุ่งขึ้น 0.9% ในเดือนพ.ย. และหากเทียบรายปี ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 5.4% ในเดือนธ.ค.
ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนธ.ค. หลังจากดีดตัวขึ้น 1.4% ในเดือนพ.ย.
-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว และไตรมาส 1 ของปีนี้ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกประจำเดือนธ.ค.เมื่อวันศุกร์
เฟดสาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่า แบบจำลองการคาดการณ์ Nowcast แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว 3.88% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว โดยต่ำกว่าเล็กน้อยจากตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 3.97% ที่ระบุไว้เมื่อสัปดาห์ก่อน
นอกจากนี้ แบบจำลองยังแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว 3.21% ในไตรมาส 1 ของปีนี้ โดยต่ำกว่าเล็กน้อยจากตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 3.45% ที่ระบุไว้เมื่อสัปดาห์ก่อน
-- นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส กล่าวว่า อัตราการว่างงานของสหรัฐมีแนวโน้มต่ำลงกว่าระดับ 4% ซึ่งเป็นผลกระทบจากการที่สหรัฐมีการจ้างงานเต็มศักยภาพ และสิ่งนี้บ่งชี้ถึงความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
นายแคปแลนระบุว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 3 ครั้งในปีนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะร้อนแรงจนเกินไป ซึ่งการที่เฟดค่อยๆถอนตัวออกจากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน จะช่วยให้เศรษฐกิจมีการขยายตัวที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ นายแคปแลนยังได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 2.75%
-- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า เขาไม่ได้ใช้ถ้อยคำที่เสื่อมเสียเกี่ยวกับชาวเฮติ นอกจากกล่าวว่าเฮติเป็นประเทศที่ยากจนมาก และมีปัญหามาก
ทั้งนี้ รายงานระบุว่า ในระหว่างการประชุมกับสมาชิกสภาคองเกรสเกี่ยวกับการป้องกันผู้อพยพจากเฮติ, เอล ซัลวาดอร์ และประเทศจากแอฟริกาเดินทางเข้าสู่สหรัฐ ปธน.ทรัมป์ตั้งคำถามว่า "ทำไมเราต้องให้คนพวกนี้จากประเทศโสโครก (shithole countries) เดินทางมาที่นี่ด้วย แทนที่จะเป็นคนจากนอร์เวย์"
"ภาษาที่ผมใช้ในการประชุม DACA (โครงการคุ้มครองผู้อพยพวัยเยาว์ที่เดินทางเข้ามาในสหรัฐ) มีความรุนแรง แต่นี่ไม่ใช่ภาษาที่ผมใช้ และสิ่งที่รุนแรงจริงๆคือข้อเสนอที่มีการเสนอมา ซึ่งทำให้โครงการ DACA ก้าวถอยหลัง" ข้อความในทวิตเตอร์ระบุ
คำกล่าวของปธน.ทรัมป์ทำให้สมาชิกสภาคองเกรสหลายคนออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมในการใช้คำพูดของปธน.ทรัมป์
-- โฆษกของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า อังกฤษยินดีให้การต้อนรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเขาได้ตอบรับคำเชิญแล้ว
"เราได้ส่งคำเชิญ และปธน.ทรัมป์ก็ได้ตอบรับ "สหรัฐเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่เก่าแก่ และมีคุณค่าที่สุดของเรา ซึ่งความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งและลึกซึ้งนี้จะยั่งยืนต่อไป"" โฆษกกล่าว และเสริมว่า ขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันกำหนดวันเดินทางเยือนอังกฤษของปธน.ทรัมป์
คำกล่าวของโฆษกนายกรัฐมนตรีอังกฤษมีขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความว่า สาเหตุที่เขายกเลิกแผนการเดินทางเยือนอังกฤษในเดือนหน้า เป็นเพราะเขาไม่ต้องการเป็นผู้ทำพิธีเปิดสถานทูตสหรัฐแห่งใหม่ในกรุงลอนดอน เนื่องจากรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามาตัดสินใจผิดพลาดในการขายสถานทูตสหรัฐที่ตั้งอยู่ในทำเลดีในราคาถูก แต่กลับมาสร้างสถานทูตใหม่ในที่ดินที่มีราคาแพง และตั้งในทำเลที่ไม่ดี
-- เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้มีกำหนดเจรจากันในวันนี้ เกี่ยวกับตัวแทนนักกีฬาของเกาหลีเหนือที่จะเป็นตัวแทนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวซึ่งเกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในเดือนหน้า โดยสำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า คาดว่าทั้งสองฝ่ายจะหารือกันเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ เช่น จำนวนนักกีฬาของเกาหลีเหนือที่จะถูกส่งเข้าร่วมการแข่งขัน รวมทั้งประเด็นเกี่ยวกับเวลาและสถานที่ในการแข่งขัน
-- สื่อเยอรมนีรายงานเมื่อวันศุกร์ว่า พรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU) และพรรคสหภาพสังคมคริสเตียน (CSU) ของนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และพรรคสังคมประชาธิปไตย (SPD) สามารถบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการเจรจาจัดตั้งรัฐบาลแล้ว
แกนนำของทั้ง 3 พรรคจะนำรายละเอียดของข้อตกลงเกี่ยวกับนโยบายในประเด็นสำคัญต่างๆจำนวน 28 หน้าเสนอแก่สมาชิกพรรค ซึ่งพรรค SPD จะมีการประชุมสมาชิกพรรคในวันที่ 21 ม.ค. หากที่ประชุมให้การรับรองนโยบายเหล่านี้ และเห็นพ้องที่จะเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรค CDU/CSU ก็จะถือเป็นการสิ้นสุดภาวะไร้เสถียรภาพทางการเมืองของเยอรมนีนับตั้งแต่มีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 ก.ย.ปีที่แล้ว
ทั้งนี้ ในข้อตกลงที่แกนนำทั้ง 3 พรรคเห็นพ้องกันนั้น พวกเขาตกลงกันว่าจะไม่มีการปรับขึ้นภาษี และจะจำกัดจำนวนผู้อพยพเข้าประเทศให้อยู่ในช่วง 180,000-220,000 คนต่อปี รวมทั้งตกลงที่จะสร้างความเข้มแข็งให้แก่สหภาพยุโรป (EU) ด้วยการให้เยอรมนีสมทบเงินช่วยเหลือ EU มากขึ้น
-- ตลาดการเงิน และหน่วยงานราชการของสหรัฐ ปิดทำการในวันนี้ (15 ม.ค.) เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆตลอดทั้งสัปดาห์นี้ที่นักลงทุนให้ความสนใจ ได้แก่ ข้อมูลเศรษฐกิจจีนซึ่งได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2560, การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเดือนธ.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. และยอดค้าปลีกเดือนธ.ค. ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆนั้น นักลงทุนจับตาอัตราว่างงานเดือนธ.ค.ของออสเตรเลีย ขณะที่ยูโรสแตทจะเปิดเผย ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ยูโรโซนเดือนธ.ค., เยอรมนีและอังกฤษจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนธ.ค.
ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการ ซึ่งได้แก่ การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนธ.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนม.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
Attach File : S__15671307_4.jpg
admin
Administrator
Post : 32
Re : World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำเดือน มกราคม 2018
on
: Mon January 8,2018, 09:52
World Today: สรุปข่าวประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 8 มกราคม 2561
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อวันศุกร์ (5 ม.ค.) ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนธ.ค. โดยปรับตัวขึ้นเพียง 148,000 ตำแหน่ง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 17 ปี
-- ตลาดหุ้นนิวยอร์กทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เมื่อวันศุกร์ (5 ม.ค.) จากการที่นักลงทุนมองว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.ของสหรัฐที่ขยายตัวน้อยกว่าคาดนั้น จะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนบวกเช่นกัน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,295.87 จุด พุ่งขึ้น 220.74 จุด หรือ +0.88% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,743.15 จุด เพิ่มขึ้น 19.16 จุด หรือ +0.70% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,136.56 จุด เพิ่มขึ้น 58.64 จุด หรือ +0.83%
-- ธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 สู่ระดับ 3.14 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นเดือนธ.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.07 หมื่นล้านดอลลาร์จากเดือนก่อนหน้านั้น
ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดเล็กน้อย โดยตลาดคาดไว้ว่าจะอยู่ที่ 3.13 ล้านล้านดอลลาร์
-- สถานการณ์ตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีเริ่มส่งสัญญาณผ่อนคลายลงในระดับหนึ่ง หลังจากเกาหลีเหนือได้ตอบรับคำเชิญจากเกาหลีใต้ในการประชุมที่หมู่บ้านปันมุนจอม ซึ่งเป็นเขตปลอดทหารระหว่างชายแดนของประเทศทั้งสองในวันที่ 9 ม.ค. เพื่อหารือเกี่ยวกับการที่เกาหลีเหนือจะส่งตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวซึ่งเกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในเดือนหน้า
ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐเปิดเผยว่า ตนมีความยินดีในการเจรจาทางโทรศัพท์กับนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ พร้อมกับแสดงความคาดหวังว่า การเจรจาระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ที่จะมีขึ้นนี้ จะปิดฉากลงด้วยผลลัพธ์อันดี
-- นายสตีฟ แบนนอน อดีตหัวหน้านักวางกลยุทธ์ประจำทำเนียบขาว ได้ออกมากล่าวขอโทษในกรณีที่เขาได้แสดงความเห็นในหนังสือเล่มใหม่ซึ่งมีเนื้อหาโจมตีบุตรชายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าเป็นคนทรยศต่อประเทศชาติ หลังจากที่บุตรชายของทรัมป์ได้พบปะกับทนายความชาวรัสเซียที่อาคารทรัมป์ทาวเวอร์เมื่อปี 2559
ทั้งนี้ นายแบนนอนได้แถลงผ่านเว็บไซต์ Axios เพื่อกล่าวคำขอโทษ โดยมีใจความว่า "โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ เป็นคนดีและรักชาติ เขามุ่งมั่นสนับสนุนคุณพ่อของเขาและผลักดันนโยบายต่างๆซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นต่อประเทศของเรา"
"การแสดงความเห็นในหนังสือเล่มนั้น ผมตั้งใจจะกล่าวถึงนายพอล มานาฟอร์ท หนึ่งในทีมหาเสียงที่มีประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับรัสเซีย เขาควรรู้ว่ารัสเซียนั้นเจ้าเล่ห์และไม่ใช่เพื่อนของเรา" นายแบนนอนกล่าว
นอกจากนี้ นายแบนนอนยืนยันว่า เขาจะสนับสนุนปธน.ทรัมป์และนโยบายต่างๆของทรัมป์ต่อไป พร้อมกับกล่าวคำขอโทษที่เขาออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ช้าเกินไป
-- หนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทมส์ รายงานว่า นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์แห่งสหราชอาณาจักร เตรียมประกาศปรับคณะรัฐมนตรีในวันนี้ โดยคาดว่าจะดึงนักการเมืองสาวและผู้ที่มีเชื้อชาติอื่นๆเข้ามาดำรงตำแหน่งกันมากขึ้น เพื่อเรียกคะแนนนิยมจากประชาชน
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์ในอังกฤษเชื่อว่า นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ กำลังพิจารณาปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยเตรียมที่จะปรับเปลี่ยนตำแหน่งของนายเดวิด เดวิส รัฐมนตรีฝ่ายกิจการ Brexit และนายบอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศคนปัจจุบัน
-- สถานการณ์การเมืองในมาเลเซียเริ่มกลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง เมื่อกลุ่มพันธมิตรฝ่ายค้านในมาเลเซียได้ประกาศเลือกนายมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนลงชิงชัยเก้าอี้นายกฯในการเลือกตั้งทั่วไปที่จะจัดขึ้นในปีนี้
การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นในระหว่างการประชุมประจำปีของกลุ่มปากาตัน ฮาราปัน หรือ "กลุ่มพันธมิตรแห่งความหวัง" โดยนายมหาเธร์ วัย 92 ปีเคยดำรงตำแหน่งนายกฯมาเลเซียระหว่างปี 2524-2546
-- บริษัท ทาคาตะ คอร์ป ผู้ผลิตถุงลมนิรภัยรายใหญ่ของญี่ปุ่น ซึ่งได้ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์สินจากการล้มละลาย เพื่อคลี่คลายปัญหาหนี้สินมูลค่ามหาศาลจากกรณีการเรียกคืนถุงลมนิรภัยทั่วโลกนั้น ได้ประกาศเรียกคืนถุงลมนิรภัยเพิ่มอีก 3.3 ล้านชิ้น ตามคำสั่งของทางการสหรัฐ
ทั้งนี้ ความบกพร่องของถุงลมนิรภัยทาคาตะได้ส่งผลให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ 19 แห่งทั่วสหรัฐต้องประกาศเรียกคืนรถยนต์รวมกว่า 42 ล้านคัน นอกจากนี้ ความบกพร่องของถุงลมนิรภัยยังส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 รายในสหรัฐ
-- นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้กล่าวแสดงความพึงพอใจต่อผลงานของนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในแง่ของการจ้างงาน พร้อมขอให้ผู้ว่าการ BOJ เดินหน้าต่อไปเพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศพ้นจากภาวะเงินฝืดที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลาถึง 20 ปี
นายอาเบะยังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นพร้อมที่จะร่วมงานกับทางแบงก์ชาติต่อไป เพื่อให้ญี่ปุ่นพ้นจากภาวะเงินฝืดโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ดี นายอาเบะยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะแต่งตั้งให้นายคุโรดะ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ BOJ อีกสมัยหรือไม่ โดยนายคุโรดะจะหมดวาระในเดือนเมษายนนี้
-- นายเอมมานูเอล มาครอง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส มีกำหนดเดินทางเยือนประเทศจีนในระหว่างวันที่ 8-10 ม.ค.นี้ โดยการเดินทางเยือนครั้งนี้ นายมาครองมีกำหนดพบปะกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และนายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน โดยผู้นำจีนและฝรั่งเศสจะหารือกันเกี่ยวกับความร่วมมือในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกันมากขึ้น
ทางด้านบริษัทแอร์บัส ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของฝรั่งเศส ได้แสดงความคาดหวังว่าทางบริษัทจะได้รับคำสั่งซื้อเครื่องบินล็อตใหญ่จากจีน ในระหว่างที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเดินทางเยือนประเทศจีนในครั้งนี้ โดยคาดว่าจีนจะสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสอย่างน้อย 100 ลำเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับฝูงบินของสายการบินต่างๆในประเทศจีน
-- นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ เพื่อจับสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ของเฟด โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนธ.ค. ในวันพฤหัสบดีที่ 11 ม.ค. และจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนธ.ค. ในศุกร์ที่ 12 ม.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาตัวเลขเงินเฟ้องของจีนในสัปดาห์นี้เช่นกัน โดยทางการจีนจะเปิดเผยดัชนี CPI เดือนธ.ค. และดัชนี PPI เดือนธ.ค. ในวันพุธที่ 10 ม.ค.นี้
-- ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนพ.ย.ของเยอรมนี, ดัชนีราคาบ้านเดือนธ.ค.ของอังกฤษจากฮาลิแฟกซ์ ขณะที่ยูโรสแตทจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของอียูหลายรายการ ซึ่งรวมถึงความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเดือนธ.ค., ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนธ.ค., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. และยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.
สำหรับในวันพรุ่งนี้ ญี่ปุ่นจะเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. ขณะที่เยอรมนีจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจหลายรายการ ซึ่งรวมถึง ดุลการค้าเดือนพ.ย., ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนพ.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย., และอัตราว่างงานเดือนพ.ย. ทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อมเดือนธ.ค. โดยสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB)
Attach File : S__15671308_2.jpg
admin
Administrator
Post : 32
Re : World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำเดือน มกราคม 2018
on
: Fri January 5,2018, 09:36
World Today: สรุปข่าวประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 5 มกราคม 2561
-- -ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุแนว 25,000 จุดเป็นครั้งแรกเมื่อคืนนี้ (4 ม.ค.) โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนธ.ค. ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนธ.ค.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้
-- ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐพุ่งขึ้น 250,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 190,000 ตำแหน่ง และสูงกว่าระดับ 185,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย.
การจ้างงานในเดือนธ.ค.นับเป็นการจ้างงานที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีเมื่อคืนนี้ (4 ม.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากปัจจัยความไม่สงบในอิหร่าน และความต้องการใช้น้ำมันในสหรัฐ อันเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น
-- สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 7.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 5.7 ล้านบาร์เรล ส่วนสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ระบุก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 5.0 ล้านบาร์เรล
สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 4.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล พุ่งขึ้น 8.9 ล้านบาร์เรล
-- ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 53.7 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน จากระดับ 54.5 ในเดือนพ.ย. แต่อยู่สูงกว่าตัวเลขดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น ซึ่งอยู่ที่ระดับ 52.4
ดัชนี PMI ภาคบริการได้รับผลกระทบจากดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจซึ่งร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน
อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า กิจกรรมในภาคบริการของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว ขณะที่ได้รับปัจจัยหนุนจากการเพิ่มขึ้นของการจ้างงาน และคำสั่งซื้อใหม่
-- สำนักงานบริการข้อมูลสภาพอากาศแห่งชาติสหรัฐ (NWS) รายงานว่า พายุฤดูหนาว หรือ"ระเบิดไซโคลน" (bomb cyclone) กำลังถล่มแถบตะวันออกของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งจะทำให้เกิดหิมะตกหนัก และลมกรรโชกแรงในแถบชายฝั่งมิด-แอตแลนติกไปจนถึงทางใต้ของนิวอิงแลนด์ และพายุจะเคลื่อนตัวไปยังแถบตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงบ่าย
NWS เรียกพายุดังกล่าวว่าเป็นระเบิดไซโคลน เนื่องจากมีความเร็วลมสูง และความกดอากาศต่ำอย่างที่แทบไม่เคยปรากฎมาก่อน โดยมีความเร็วลมสูงถึง 60 ไมล์/ชั่วโมง และมีความหนาวเย็นระดับขั้วโลกเหนือ
พายุดังกล่าวส่งผลให้มีการยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 3,000 เที่ยวในวันนี้ ขณะที่โรงเรียน และบริษัทจำนวนมากประกาศปิดชั่วคราว
-- เมื่อวานนี้ หนังสือพิมพ์พีเพิล เดลี ซึ่งเป็นสื่อกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวโจมตี "บิตคอยน์" ในบทบรรณาธิการว่าเป็นเพียงฟองสบู่และกระแสคลั่งไคล้ชั่วขณะในยุคสมัยใหม่เท่านั้น
"ไม่ว่าจะประเมินจากราคาหรือมูลค่า บิตคอยน์ก็เต็มไปด้วยฟองสบู่ ส่วนข้อดีที่มีการกล่าวถึงทั้งในเรื่องความน่าเชื่อถือ สภาพคล่อง และความโปร่งใสนั้น ล้วนแต่เป็นสิ่งบังหน้าเพื่อการเก็งกำไร และไม่สามารถรองรับกับความผันผวนของราคาได้" พีเพิล เดลีระบุ
รัฐบาลจีนมองว่าบิตคอยน์เป็นต้นตอแห่งความเสี่ยงในระบบการเงิน ดังนั้นจึงได้ออกกฎห้ามการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินสกุลดิจิทัลในประเทศตั้งแต่ในปีที่แล้ว
-- อีเธอเรียม ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัล พุ่งขึ้นใกล้แตะระดับ 1,000 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ โดยดีดตัวแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 983.63 ดอลลาร์ เมื่อเวลา 19.15 น.ตามเวลาไทย
ขณะนี้ อีเธอเรียมเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากบิตคอยน์ และริพเพิล
-- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ดุลการค้าเดือนพ.ย., ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนพ.ย. และดัชนีภาคบริการเดือนธ.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)
-- นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนธ.ค.ในวันนี้ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นราว 190,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 228,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.1%
ส่วนตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนธ.ค. หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย.
Attach File : nf.PNG
admin
Administrator
Post : 32
Re : World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำเดือน มกราคม 2018
on
: Thu January 4,2018, 10:24
World Today: สรุปข่าวประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 4 มกราคม 2561
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค. 2560 เมื่อวานนี้ โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่ยังคงสนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่างไรก็ตาม กรรมการเฟดมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับจังหวะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2561
"กรรมการเฟดส่วนใหญ่ยังเน้นย้ำถึงการสนับสนุนให้คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อรับมือกับความเสี่ยงที่อาจจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ" รายงานการประชุมระบุ
--เกาหลีเหนือเปิดช่องทางการติดต่อสื่อสารกับเกาหลีใต้ที่หมู่บ้านปันมุนจอมอีกครั้งเมื่อวานนี้ เพื่อเปิดให้มีการหารือในเรื่องของการส่งตัวแทนจากเกาหลีเหนือเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพ หลังจากที่ได้มีการตัดขาดช่องทางการสื่อสารดังกล่าวตั้งแต่ต้นปี 2559 ที่ผ่านมา
รายงานดังกล่าวได้ช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลต่อคาบสมุทรเกาหลี ถึงแม้ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้ทวีตข้อความในเชิงเหน็บแนมนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เกี่ยวกับปุ่มกดนิวเคลียร์ โดยทรัมป์กล่าวว่า "ปุ่มกดนิวเคลียร์ของสหรัฐทั้งใหญ่กว่าและสมรรถนะสูงกว่า" ปุ่มกดนิวเคลียร์ที่นายคิมอ้างว่าวางอยู่บนโต๊ะทำงานของตนเอง โดยหยิบยกคำพูดของนายคิมในระหว่างกล่าวสุนทรพจน์ผ่านทางสถานีโทรทัศน์เนื่องในวันปีใหม่
--กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนพ.ย. สู่ระดับ 1.257 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากดีดตัวขึ้น 0.9% ในเดือนต.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างจะเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ย.
--ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM ดีดตัวสู่ระดับ 59.7 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 58.2 ในเดือนพ.ย.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีภาคการผลิตจะทรงตัวที่ระดับ 58.2 ในเดือนธ.ค.
--หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สของอังกฤษรายงานว่า รัฐบาลอังกฤษกำลังอยู่ในระหว่างการตัดสินใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (TPP) ขณะที่อังกฤษกำลังพิจารณาอนาคตทางการค้า หลังจากที่แยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)
ไฟแนนเชียล ไทม์สระบุว่า แนวโน้มการที่อังกฤษอาจเข้าเป็นสมาชิก TPP ได้ช่วยให้ TPP มีความแข็งแกร่งขึ้น หลังจากที่สหรัฐประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลงดังกล่าวก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ การที่อังกฤษเข้าร่วมเป็นสมาชิก TPP จะช่วยเพิ่มปริมาณการส่งออกของอังกฤษ
--ชาวอิหร่านจำนวนหลายพันคนได้ออกมาเดินขบวนสนับสนุนรัฐบาลในหลายเมืองวานนี้ หลังจากที่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลได้จัดการชุมนุมเป็นเวลา 6 วันจนเกิดการปะทะกับตำรวจ และทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง
ทั้งนี้ กลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลดังกล่าว ซึ่งได้รับการจัดตั้งขึ้นจากรัฐบาล ได้ชูธงชาติอิหร่าน และภาพของอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน พร้อมกับกล่าวหาว่าสหรัฐ อิสราเอล และอังกฤษ อยู่เบื้องหลังการยุยงให้เกิดความไม่สงบในประเทศ
--เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐ ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจจีนปี 2561 สู่ระดับการขยายตัว 6.7% จาก 6.5% เนื่องจากอุปสงค์โลกปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ เจพีมอร์แกน เป็นหนึ่งในธนาคารรายใหญ่อีกหลายรายของสหรัฐ ที่ออกมาแสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีนซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโก
--สหภายุโรป (EU) ได้เริ่มบังคับใชเกณฑ์ MiFID II (Markets in Financial Instruments Directive II) เมื่อวานนี้ โดย MiFID II เป็นเกณฑ์การกำกับดูแลเพื่อลดความเสี่ยงในระบบ เพิ่มความโปร่งใสของตลาด และยกระดับการปกป้องนักลงทุน
ขณะที่นายสตีเวน ไมจัวร์ ประธานกรรมการของสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ยุโรป (ESMA) กล่าวว่า ตนยังไม่พบปัญหาจากการเริ่มบังคับใช้เกณฑ์ดังกล่าวในขณะนี้
-- จับตาข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่ประเทศต่างๆจะรายงานในวันนี้ โดยมาร์กิตจะรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนธ.ค.ของฝรั่งเศส เยอรมนี สหภาพยุโรป อังกฤษ และสหรัฐ ขณะที่เนชั่นไวด์จะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านอังกฤษเดือนธ.ค.
ส่วนสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนธ.ค.จาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
-- นักลงทุนจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนธ.ค.ในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นราว 190,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 228,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.1%
ส่วนตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนธ.ค. หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย.
Attach File : non_3.jpg
admin
Administrator
Post : 32
Re : World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำเดือน มกราคม 2018
on
: Wed January 3,2018, 12:41
World Today: สรุปข่าวประเด็นน่าติดตามประจำวันที่ 3 มกราคม 2561
เอียน เบรมเมอร์ ประธานยูเรเซีย กรุ๊ป บริษัทที่ปรึกษาทางการเมือง เปิดเผยว่า ปี 2561 จะเป็นปีที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแผ่ขยายอิทธิพลของจีน และอิทธิพลของสหรัฐที่ลดน้อยลง ไปจนถึงการกีดกันทางการค้าของรัฐบาล และความสัมพันธ์ที่แย่ลงเรื่อยๆระหว่างอิหร่านและสหรัฐ
-- นักลงทุนในตลาดการเงินจับตากระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนธ.ค.ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นราว 190,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 228,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.1%
ส่วนตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนธ.ค. หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย.
-- รายงานฉบับใหม่ล่าสุดจากคอร์โลจิก (CoreLogic) ผู้ให้บริการข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของสหรัฐ คาดการณ์ว่า ราคาบ้านในสหรัฐอาจขยายตัว 4.2% เทียบรายปี จากเดือนพ.ย. 2560 ถึงเดือนพ.ย. 2561
ดัชนีราคาบ้านของคอร์โลจิก ระบุว่า ราคาบ้านในสหรัฐอเมริกาปรับตัวขึ้นทั้งเทียบรายปีและเทียบรายเดือน
-- คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) มีกำหนดจะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 12-13 ธ.ค. 2560 ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะนักลงทุนคาดหวังว่า เฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับความถี่ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
-- โมเนโรซึ่งเป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลมีมูลค่าพุ่งสูงขึ้นกว่า 4 เท่าในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี 2560 แตะที่ 349 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้กลายเป็นสุกลเงินดิจิทัลที่มีอัตราเติบโตเร็วกว่าบิทคอยน์ ซึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเดิม 2 เท่าในช่วงเวลาเดียวกัน หลังจากที่มีการเปิดตัวซอฟต์แวร์ตรวจตราการใช้งานบิทคอยน์ซึ่งทำให้มีความเป็นส่วนตัวน้อยลง
-- คณะทำงานด้านความมั่นคงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เรียกร้องให้มีการใช้มาตรการที่แข็งกร้าวมากขึ้นเพื่อป้องกันการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ โดยเสนอให้มีการใช้มาตรการทำลายขีปนาวุธก่อนที่จุถูกยิงขึ้นฟ้า
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า สหรัฐมีเทคโนโลยีและหน่วยข่าวกรองที่พร้อมสำหรับปฏิบัติการในลักษณะนี้หรือไม่
-- เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้เปิดเผยว่า ทางการเกาหลีใต้ได้ยึดเรือสินค้า "KOTI" ขนาด 5,100 ตัน ซึ่งเป็นเรือที่จดทะเบียนในปานามา เนื่องจากสงสัยว่าลักลอบส่งน้ำมันให้กับเกาหลีเหนือ ซึ่งขัดคำสั่งของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ โดยเรือลำดังกล่าวถูกยึดไว้ที่ท่าเรือพย็องแท็กในเกาหลีใต้
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกาหลีใต้ได้ยึดเรือบรรทุกสินค้าสัญชาติฮ่องกงที่แอบลักลอบส่งน้ำมันให้แก่เรือบรรทุกของเกาหลีเหนือในน่านน้ำสากล หลังจากที่ถูกประกาศห้ามโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
-- กระทรวงการต่างประเทศตุรกีออกแถลงการณ์แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ประท้วงในอิหร่าน โดยกล่าวว่า ตุรกีหวังว่าเสถียรภาพในอิหร่านจะเกิดขึ้นโดยเร็ว และหวังว่าจะมีการหลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคำยั่วยุและการแทรกแซงจากภายนอก
การชุมนุมประท้วงรัฐบาลในอิหร่านส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเกิน 20 ราย โดยในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าหน้าที่กองกำลังความมั่นคงรวมอยู่ด้วย ขณะที่ผู้ประท้วงกว่า 400 รายถูกจับกุมตัวในระหว่างการประท้วง
-- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้ โดยเยอรมนีจะเปิดเผยอัตราว่างงานเดือนธ.ค. ขณะที่สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตเดือนธ.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนพ.ย. และยอดขายรถเดือนธ.ค.
-- สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศต่างๆที่จะมีการเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ได้แก่ เกาหลีใต้จะเปิดเผยทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนธ.ค., ไฉซินจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนธ.ค.ของจีน, เนชั่นไวด์จะเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนธ.ค.ของอังกฤษ ขณะที่มาร์กิตจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนธ.ค.ของฝรั่งเศส,เยอรมนี และอียู ส่วนทางด้านสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนธ.ค.จาก ADP, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนธ.ค.จากมาร์กิต
Attach File : 25660052_2118792451682910_3034870125817012658_n_1.jpg
Pages [ 1 ]
Comunity
>
World Market
>
สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงิน >
World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำเดือน มกราคม 2018
Forex Lao,Weltrade Lao,Free VPS Server,Free server run EA
XClose